มติครม.(19เม.ย.2559)

19 เม.ย. 2559 | 10:15 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2559 | 17:14 น.
+เทงบพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะกว่า 2 หมื่นล.

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) เห็นชอบแผนการลงทุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ ปี 2558-2560 จำนวน 116 โครงการ 35,342 หน่วย วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 23,234.419 ล้านบาท โดยมีแหล่งที่มาของเงินทุนจากเงินกู้ภายในประเทศ รายได้ของการเคหะแห่งชาติ และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ทั้งยังอนุมัติการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2558 จำนวน 43 โครงการ 11,458 หน่วย แหล่งเงินจากเงินกู้ภายในประเทศ รายได้ของการเคหะแห่งชาติ และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาและค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ตามที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ

ทั้งนี้ สำหรับทั้งสองโครงการอยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะเวลา 10  ปี (2559-2568) วัตถุประสงค์เพื่อดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางเพื่อให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือมีรายได้ มีขีดความสามารถในการเช่าที่อยู่อาศัยในมาตรฐานที่ยอมรับได้ และมีราคาที่เป็นธรรม

-ปรับลดงานโยธาสายสีส้มเหลือ 76,632 ล.

ที่ประชุม ครม. (19 เมษายน) อนุมัติเห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในวงเงิน 82,907 ล้านบาท โดยหลังจากคณะรัฐมนตรีได้สั่งการให้ปรับแก้ให้มีราคาก่อสร้างลดลง และเน้นการใช้วัสดุในประเทศให้มากขึ้น กระทรวงคมนาคมได้ปรับแก้ให้สามารถประหยัดงบประมาณได้เพิ่ม 2,576 ล้านบาท ซึ่งลดในส่วนการก่อสร้างงานโยธา 2,300 ล้านบาท เหลือ 76,632ล้านบาท และค่าการจ้างที่ปรึกษา ลดได้ 83 ล้านบาท โดยที่ประชุมอนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการเปิดประมูลต่อไปโดยให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม

-ครม.คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

ที่ประชุมครม. (19 เมษายน)มีมติเห็นชอบรับรองการดำเนินการตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ จากการทดลองระเบิดไฮโดรเจน และการปล่อยขีปนาวุธวิสัยไกล และยังเห็นชอบให้มีมาตรการคว่ำบาตรทางอาวุธ ป้องกันการเดินทาง การขนส่งสิ่งของ การช่วยเหลือทางการเงินและการธนาคาร และสินค้าฟุ่มเฟือยที่ห้ามส่งไปยังเกาหลีเหนือ โดยจะต้องทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนอีกครั้ง นอกจากนี้ ครม.ยังมอบหมายให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องปรับปรุงข้อมูลที่สำคัญ เพื่อแจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของไทย หากพบข้อขัดข้องสามารถแจ้งให้ องค์การสหประชาชาติทราบได้ทันที

+กำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่ 854.25 บาท

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) มีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2557/2558 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอ เป็นรายเขต 9 เขต โดยราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราตันอ้อยละ 854.25 บาท ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 51.25 บาท ต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส.ต่อเมตริกตัน และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย เท่ากับ 366.11 บาทต่อตันอ้อย ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย (กอน.) เสนอ

+เพิ่มเงื่อนไขให้พิจารณาบรรจุขรก.เกษียณสายพละศึกษา

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) มีมติเห็นชอบการเพิ่มเงื่อนไขการพิจารณาจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของส่วนราชการ โดยให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสำหรับตำแหน่งในสังกัดสถาบันการพลศึกษา คือ “ญ.ตำแหน่งในสังกัดสถาบันการพลศึกษา” ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ

+ผ่านร่างกม.ดิจิทัลฯ 3 ฉบับ

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ... ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) และร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประชุมกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ....

+รายงานผลเจรจาการบินระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) มีมติเห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ฉบับลงนาม วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและญี่ปุ่น และมอบให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้ กต. สามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ

+ให้สัตยาบันต่อพิธีสารอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีและให้สัตยาบันต่อพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ และให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.)โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมายดำเนินการจัดทำ  ภาคยานุวัติสารดังกล่าวต่อไป โดยพิธีสารดังกล่าวเป็นกลไกเพื่อทำให้การคุ้มครองสิทธิของคนพิการสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มี 18 ข้อบท อาทิ กระบวนการร้องเรียนโดยปัจเจกบุคคล (Individual communication) และกระบวนการการไต่สวน(Inquiry) และเป็นกระบวนการที่คนพิการหรือองค์กรคนพิการสามารถร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมและสามารถเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการโดยตรงได้ด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการจะไม่รับข้อร้องเรียนที่เคยได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบหรือเสร็จสิ้นการตรวจสอบแล้ว โดยกระบวนการในการสอบสวนหรือไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศและเป็นข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นก่อนที่พิธีสารเลือกรับนี้จะมีผลบังคับใช้ในรัฐภาคีที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการพิจารณาข้อร้องเรียนของคณะกรรมการจะมีการตรวจสอบข้อมูล โดยที่ต้องได้รับความยินยอมจากรัฐภาคีด้วย และการไต่สวนกระทำโดยลับ และให้แสวงหาความร่วมมือของรัฐภาคีในทุกขั้นตอนของกระบวนการไต่สวน เป็นต้น

+“สุกัญญา” นั่ง เลขาธิการคณะกก.วิจัยแห่งชาติ

ที่ประชุม ครม.(19 เมษายน) แต่งตั้ง นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและมีคำสั่งให้รักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป