กูรูอสังหาฯเปิดภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย/ราคาที่ดิน ใน 3 ทำเลผุดที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า การเคหะแห่งชาติ เผยทาวน์เฮาส์ได้รับความนิยมสูงสุด แต่อัตราการขายได้ไม่หวือหวา ด้านราคาที่ดินขยับขึ้นต่อเนื่อง รับโครงการรถไฟฟ้า
[caption id="attachment_66646" align="aligncenter" width="700"]
ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยพื้นที่ คูคต ประชานิเวศสาม แพรกษา[/caption]
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ คูคต ประชานิเวศน์ 3 และแพรกษาว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน โดยในพื้นที่คูคตทาวน์เฮาส์ในโครงการจัดสรรจะเป็นที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากที่สุดคือมีสัดส่วนประมาณ 53% ของจำนวนทั้งหมดที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน 1,272 หน่วย โดยทาวน์เฮาส์ที่ขายมากที่สุดอยู่ในระดับราคา 1- 2 ล้านบาท คือประมาณ 46% ของจำนวนบ้านในโครงการจัดสรรทั้งหมด อัตราการขายได้เฉลี่ยในทำเลนี้อยู่ที่ประมาณ 57% โดยทาวน์เฮาส์เป็นรูปแบบบ้านที่ได้รับความสนใจหรือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อในทำเลมากที่สุด ในส่วนของบ้านเดี่ยวนั้นเปิดขายที่ระดับราคา 3 - 5 ล้านบาทมากที่สุดและมีอัตราการขายประมาณ 66% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อในทำเลนี้ยังสามารถซื้อบ้านในราคาที่มากกว่า 3 ล้านบาทได้เช่นกัน แต่ว่ามีสัดส่วนที่น้อยกว่ากลุ่มทาวน์เฮาส์ที่มีราคา 1 - 2 ล้านบาทเพราะว่าสอดคล้องกับกำลังซื้อที่อาจจะทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมในละแวกนั้น
สำหรับพื้นที่ประชานิเวศน์ 3 บ้านจัดสรรในทำเลนี้อาจจะมีแค่ทาวน์เฮาส์กับอาคารพาณิชย์ที่มีการเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ในส่วนของบ้านจัดสรรที่เปิดขายอยู่ที่ประมาณ 889 หน่วย โดยเป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุดคือประมาณ 97% ของจำนวนทั้งหมด อัตราการขายเฉลี่ยของบ้านในทำเลนี้อยู่ที่ประมาณ 57% ซึ่งทาวน์เฮาส์ขายไปได้ประมาณ 57% ราคาขายของทาวน์เฮาส์อยู่ที่ระดับราคา 3 - 5 ล้านบาทต่อหน่วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 82% และราคาทาวน์เฮาส์ในทำเลนี้เริ่มตั้งแต่ 3.29 ล้านบาทต่อหน่วยขึ้นไปถึงมากกว่า 7.4 ล้านบาท ซึ่งอาจจะค่อนข้างสูงเพราะว่าเป็นทำเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ในส่วนของจังหวัดสมุทรปราการ บริษัทได้ทำการสำรวจในพื้นที่แพรกษา เนื่องจากเป็นทำเลยอดนิยมของบ้านจัดสรรที่มีราคาไม่แพง เพราะอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อส่วนหนึ่งทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมบางปูที่อยู่ไม่ไกลจากทำเลนี้ ดังนั้นบ้านจัดสรรส่วนใหญ่จึงเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีราคาขายอยู่ในช่วง 1 - 2 ล้านบาทมากที่สุดคือประมาณ 31% ของจำนวนบ้านในโครงการจัดสรรทั้งหมดที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันจำนวน 2,752 ยูนิต นอกจากนี้บ้านในทำเลนี้มีราคาขายอยู่ในช่วงราคา 2 – 5 ล้านบาท ค่อนข้างมากเช่นกันคือประมาณ 54% อัตราการขายได้เฉลี่ยของทำเลนี้อยู่ที่ประมาณ 65% บ้านจัดสรรในระดับราคา 1 – 2 ล้านบาทมีสัดส่วนมากที่สุดคือประมาณ 32%
ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เผยถึงศักยภาพพื้นที่และราคาที่ดินทั้ง 3 พื้นที่ว่า พื้นที่ลำลูกกาคลอง 2 ซึ่งเป็นส่วนของสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ราคาที่ดินแปลงใหญ่ติดริมถนนอยู่ที่ประมาณ 5 -6 หมื่นบาทต่อตารางวา ขณะที่แปลงเล็กจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทต่อตารางวา โดยที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้มีทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ซึ่งราคาบ้านเดี่ยวอยู่ที่ 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 1.5-2 ล้านบาท คอนโดมิเนียมไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อหน่วย และมีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เข้าไปพัฒนาโครงการในพื้นที่หลายโครงการและยังมีหน่วยเหลือขายจำนวนมาก ขณะที่โครงการของ การเคหะแห่งชาติ (กคช.)ในพื้นที่ดังกล่าวก็ยังมีหน่วยเหลือขายหลักพันหน่วยเช่นกัน
ในส่วนของพื้นที่ประชานิเวศน์ 3 ซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ราคาที่ดินได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา เดิมอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาทต่อตารางวา ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 5 หมื่นบาทต่อตารางวา สำหรับพื้นที่บางปู กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานในโรงงานที่เช่าห้องพักหรืออพาร์ตเมนต์ แต่เมื่อต้องการมีที่อยู่อาศัยก็จะให้ความสนใจกับทาวน์เฮาส์เป็นพิเศษ ระดับราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ประกอบการบางรายเข้ามาพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับราคา 8 -9 แสนบาทต่อหน่วยในพื้นที่เช่นกัน ขณะที่ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 2 -3 หมื่นบาทต่อตารางวา
"การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยเป็นแนวคิดที่ดี แต่อยากให้พิจารณาซัพพลายคงเหลือในพื้นที่ประกอบก่อนการพัฒนา ซึ่งหากพัฒนาโครงการใหม่อาจเป็นการเติมสินค้าให้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งควรเร่งขายหรือปรับปรุงและขายโครงการเหล่านั้นให้หมดเสียก่อน" นายวสันต์ กล่าว
Photo :
Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,170
วันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559