ที่ดินพุ่งดันทาวน์เฮาส์บูม คนซื้อหนีบ้านเดี่ยว-ราคาทะยานต่อปีหน้าเริ่ม1.8 ล้าน

23 พ.ย. 2559 | 04:00 น.
กูรูอสังหาฯ มั่นใจอนาคตทาวน์เฮาส์รุ่งเสียบแทนบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด ราคาดีดตัวสูงต่อเนื่อง แย้มปี 60 ไม่พบทาวน์เฮาส์ตํ่า 1.7 ล้านเหตุราคาที่ดินพุ่ง คอลลิเออร์ส ชี้ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นระดับกว่า 10 ล้านบาท ความต้องการเพิ่มโดยเฉพาะรอบซีบีดี ผู้บริโภคมองได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านเดี่ยวในราคาที่ถูกกว่า

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดทาวน์เฮาส์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะมีราคาที่ดินเป็นตัวแปรสำคัญในการเติบโต ทำให้ทาวน์เฮาส์เกิดขึ้น เพื่อทดแทนสินค้าประเภทบ้านเดี่ยว ที่มีราคาค่อนข้างสูงในปัจจุบัน ขณะที่ราคาทาวน์เฮาส์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ในอัตราที่มากกว่าสินค้าประเภทอื่น

ทั้งนี้ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ายังหาซื้อทาวน์เฮาส์ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทหรือ 1ล้านต้นๆ ย่านชานเมืองได้ แต่ปัจจุบันทาวน์เฮาส์ระดับราคาดังกล่าวถูกแทนที่ด้วยคอนโดมิเนียม โดยทาวน์เฮาส์ในปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่กว่า 1.5 ล้านบาท และในปี 2560 คาดว่าจะไม่เห็นทาวน์เฮาส์ในระดับราคาดังกล่าว แต่จะพบทาวน์เฮาส์ที่มีระดับราคาเริ่มต้นที่กว่า 1.8 ล้านบาท ภายใต้รูปแบบฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถทดแทนบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดได้

“ราคาที่ดิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทาวน์เฮาส์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นการที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยวทำให้มีราคาสูง หากพัฒนาคอนโดฯก็ไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่ต้องการอยู่อาศัยแนวราบ จึงเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาโครงการทาวน์เฮาส์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ และในเขตกรุงเทพฯชั้นใน” นายอิสระ กล่าว

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย กล่าวว่า แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้ประกอบการก็ยังคงมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรที่ผู้ซื้อเกือบ 100% ซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยจริง ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายเลือกที่จะพัฒนาโครงการในทำเลเมืองชั้นในหรือว่าอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางธุรกิจ

แม้ว่าราคาที่ดินจะสูงก็ตาม แต่สามารถพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่มีจำนวนหน่วยไม่มาก ในระดับราคาสูง ซึ่งกลุ่มลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากนัก โดยรูปแบบของบ้านที่นิยมพัฒนา คือ ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นขึ้นไป แบบหน้ากว้างไม่ต่ำกว่า 5 เมตร เพื่อให้น่าสนใจและเหมาะกับราคาขายที่มากกว่า 10 ล้านบาทต่อหน่วยในทำเลที่ไม่ไกลจากเมืองชั้นใน

จากการสำรวจ พบว่า ปัจจุบันในเขตกรุงเทพฯ มีทาวน์เฮาส์ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อหน่วยที่เปิดขายอยู่ทั้งหมดประมาณ 542 หน่วย ขายไปได้ประมาณ 75% โดยมากกว่า 93% ของทาวน์เฮาส์ระดับราคานี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่นอกเขตเมืองชั้นใน เช่น ถนนพระราม 3 สาธุประดิษฐ์ ยานนาวา หรือลาดพร้าว เป็นต้น

เนื่องจากราคาที่ดินที่ค่อนข้างสูงทำให้ทาวน์เฮาส์ในทำเลเหล่านี้มีราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป และมากขึ้นไปอีกสองเท่าหรือกว่า 20 ล้านบาท เมื่อเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่เมืองชั้นใน ปัจจุบันในพื้นที่เมืองชั้นในและทำเลรอบๆ ในระยะที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าเส้นทางปัจจุบัน มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่หลายโครงการไม่จำกัดเพียงแค่ทาวน์เฮาส์ ยังมีบ้านเดี่ยวและอาคารพานิชย์ แต่โครงการเหล่านั้นมีราคาขายเริ่มต้นที่มากกว่า 30 ล้าน ทำให้ได้รับความนิยมน้อยกว่าทาวน์เฮาส์

ทั้งนี้ ทาวน์เฮาส์ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งกรุงเทพฯตอนเหนือ และตอนใต้มีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อหน่วย สำหรับทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นหน้ากว้าง 5 เมตรขึ้นไปหรือมีเนื้อที่ใช้สอยภายในบ้านเริ่มที่ประมาณ 185 ตารางเมตรขึ้นไป ถึงมากกว่า 300 ตารางเมตร สำหรับทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น ในส่วนของทาวน์เฮาส์พื้นที่เมืองชั้นใน ราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 35 ล้านบาทต่อหน่วย สำหรับทาวน์เฮาส์ 3.5 ชั้นหน้ากว้าง 6 เมตรพื้นที่ใช้สอย 380 – 430 ตารางเมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านของบางโครงการมากกว่าบ้านเดี่ยวโดยทั่วไป แต่ราคาขายต่ำกว่าบ้านเดี่ยวในทำเลเดียวกันค่อนข้างมาก เพราะขนาดที่ดินที่เล็กกว่าอัตราการขายของทาวน์เฮาส์ก็มากกว่าบ้านเดี่ยวในระดับราคานี้เช่นกัน แต่จำนวนของบ้านเดี่ยวที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อหน่วย อาจจะมากกว่าทาวน์เฮาส์หลายเท่า แต่โครงการบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลกรุงเทพฯรอบนอกมีไม่มากนักที่อยู่ในทำเลเดียวกับทาวน์เฮาส์กลุ่มนี้

“ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ในระดับนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงและต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ แต่ไม่อยากซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองชั้นในที่ราคาสูง หรือต้องการอยู่ในโครงการจัดสรรที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะบางโครงการทาวน์เฮาส์แบบนี้มีจำนวนหน่วยไม่มาก ทำเลของบ้านในรูปแบบนี้ก็เดินทางสะดวก เพราะอยู่รอบนอกของเมืองชั้นในไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ทำให้โครงการรูปแบบนี้เป็นที่สนใจของผู้ซื้อ และมีผู้ประกอบการพัฒนาออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2557 – 2558 และมาลดลงในปี 2559 ตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ในอนาคตบ้านในรูปแบบนี้น่าจะยังคงมีโครงการใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายสุรเชษฐ กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,211 วันที่ 20 - 23 พฤศจิกายน 2559