ดันสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เชื่อมระนอง-เกาะสอง

29 ก.ย. 2566 | 06:14 น.

ภาคเอกชน-ประชาชน จ.ระนอง หนุนสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เชื่อมข้ามแดนระนอง-เกาะสอง เพิ่มศักยภาพ- กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท่องเที่ยว รองรับโครงการแลนด์บริดจ์

ภาคเอกชน ประชาชน จ.ระนอง ออกโรงหนุนสร้างสะพานเชื่อมไทย-เมียนมาด้าน  อ.กระบุรี จ.ระนอง จากหัวท่าตลาด ต.น้ำจืด อ.กระบุรี ไปยัง อ.เหมาใหญ่ จ.เกาะสอง  ประเทศเมียนมา โดยสร้างสะพานมิตรภาพข้ามแม้น้ำกระบุรี ช่วงที่แคบที่สุด ด้านหอการค้าจังหวัดระนอง เห็นด้วยหากมีสะพานจะสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ทั้งยังสามารถจัดระเบียบพื้นที่แนวชายแดนได้

นายพงศกร  พรหมสุวรรณ  อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จ.ระนอง พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้เดินทางไปเข้าร่วม “สัมมนาด้ามขวานไทย ใจเป็นหนึ่งเดียว” ในช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีทั้ง ว่าที่ สส. และว่าที่ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ประจำสภาผู้แทนราษฎร    ได้ประชุมโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อหล่อหลอมรวมกัน ในการทำงานพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้เจริญก้าวหน้าไปในทุก ๆ ด้าน 

นายพงศกร กล่าวอีกว่า  ตนได้ฝากที่ประชุมเรื่องการสร้างรางรถไฟจากชุมพรมายังระนอง  ตามโครงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณการสำรวจ ออกแบบการก่อสร้างไว้ในปีงบประมาณ 2563 จำนวนพันกว่าล้านบาท    และจะตั้งงบก่อสร้างผูกพันอีกประมาณ 9  ปี  

ดันสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เชื่อมระนอง-เกาะสอง

นอกจากนี้ยังได้เสนอโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมมิตรภาพไทย-เมียนมา ด้าน  อ.กระบุรี จ.ระนอง ไปยัง อ.เหมาใหญ่ จ.เกาะสอง  ตรงจุดผ่านแดนเข้า-ออก  ซึ่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย  ได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 95 ตอนที่ 6 หน้า 175 และ 193 เมื่อ 15 มกราคม 2523

 กำหนดไว้จุดที่ 2 ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอกระบุรี  ตรงช่องทางอนุญาต  ตรงหลักเสาหิน “ศุลกากร1-ศุลกากร2” คือ บริเวณ  บ้านหัวถนน  ต.น้ำจืด อ.กระบุรี  อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการสร้างเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดระนองต่อไป  หลังจากที่ได้มีการก่อสร้างถนนสี่เลนช่วงชุมพร-ระนอง เสร็จแล้วนั่นเอง

ด้านนายนิตย์  อุ่ยเต็กเค่ง  รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพราะนอกจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับเมียนมา ยังสามารถต่อยอดการค้า การทุน  การขนส่งสินค้าที่จะมีมากขึ้น ซึ่งฝ่ายไทยจะได้เปรียบในจุดนี้  

 รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือการจัดระเบียบใหม่ตามแนวชายแดน ที่หลายอย่างยังคลุมเครือไม่ชัดเจนทำให้เป็นช่องว่างการกระทำผิดกฎหมาย หากมีช่องทางบกที่คนทั้งสองประเทศจะข้ามเข้ามาหากันได้ ทุกอย่างจะเป็นระเบียบมากขึ้น นักธุรกิจจากระนอง หรือจังหวัดใกล้เคียงมีโอกาสที่จะเปิดตลาดหรือลงทุนในฝั่งเมียนมามากขึ้น การค้า การขนส่งสินค้าจากเดิมที่ขนส่งด้วยเรือ 

หากมีสะพานเชื่อมก็จะขนเส้นทางบกได้เนื่องจากปัจจุบันเมียนมาได้มีการก่อสร้างถนนมาถึงชายแดนของไทย  ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมจาก จ.เกาะสอง มะริด ทวาย และเขตตะนาวศรี การขนส่งการค้าขายจะสะดวกมากขึ้น  และที่สำคัญหากโครงการแลนด์บริดจ์เกิดขึ้น การเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าไทยกับเมียนมาจะต้องร่วมกันอย่างใกล้ชิด

นายนิตย์กล่าวต่อว่า โครงการสร้างสะพานไทย-เมียนมา เคยมีการดำเนินการมาครั้งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าจังหวัดชุมพรออกมาคัดค้าน เพราะจุดที่ตั้งมองว่าชุมพรเสียเปรียบ ปัจจุบันจึงได้ย้ายจุดที่ตั้งโครงการใหม่ คือจุดศุลกากร 2” คือ บริเวณ  ท่าเทียบเรือบ้านหัวถนน  ต.น้ำจืด อ.กระบุรี  จ.ระนอง