ความล่าช้าของการก่อสร้างโครงข่ายจราจร บนทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี -ปากท่อ )หรือถนนพระราม2 เส้นทางลัดลงสู่ภาคใต้ ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ทั้งการเผาไหม้พลังงานเชื้อเพลิง ความแออัดคับคั่ง ในการเดินทางเนื่องจากมีปริมาณ รถสัญจรผ่าน 2.5แสนคันต่อวัน รวมถึงอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ในทุกขณะที่มีการก่อสร้าง
ส่งผลให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โครงการ ก่อสร้างและติดตามการบริหารและการจัดการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามที่ 2) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมทางหลวง (ทล.) , การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และกลุ่มผู้รับเหมา ร่วมหาทางออก ภายหลังพบว่ามีการก่อสร้างโครงการ บนถนนสายนี้ พร้อมกัน ถึง 4 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย โครงการของกรมทางหลวง 3โครงการ และโครงการ ทางพิเศษ (ทางด่วน) ของการทาง ฯ อีก1โครงการ
สำหรับทางออก นายสุริยะ มีคำสั่ง ให้กรมทางหลวง ชะลอแผนก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ช่วงบ้านแพ้ว-วังมะนาว ออกไปไม่มีกำหนด เพื่อเปิดทางให้ประชาชนได้สัญจร บนถนนพระราม 2 ให้เกิดความคล่องตัว โดยทุกโครงการต้องจบ ภายในปี 2568 พร้อมผลักดัน มอเตอร์เวย์ (M8 ) เฟสแรก ช่วงนครปฐม-ปากท่อ เพิ่มทางเลือกการเดินทางภาคใต้ แบ่งเบาปัญหารถติดถนนพระราม 2
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงฯมีแผนพิจารณาถนนแนวเส้นทางอื่น เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 ให้มีความสะดวกมากขึ้น เบื้องต้นจะเร่งรัดโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่จะมีการเปิดให้บริการภายในปี 2568 โดยเส้นทางดังกล่าวมีแนวเส้นทางที่ผ่านนครปฐมที่จะเชื่อมต่อโครงการมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ
ปัจจุบันมอเตอร์เวย์สายนี้ยังติดปัญหาชาวบ้านที่มีการร้องเรียนพื้นที่ที่ถูกเวนคืนที่ดิน เนื่องจากแนวเส้นทางใกล้แหล่งชุมชน ขณะนี้กระทรวงได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งรัดโครงการนี้ โดยนำร่องดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ก่อน
ขณะที่ระยะที่ 2 ช่วงปากท่อ-ชะอำ กระทรวงได้สั่งการให้ทล.ปรับแบบแนวเส้นทางเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ หากโครงการสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นแนวเส้นทางที่เชื่อมต่อการเดินทางลงสู่ภาคใต้ได้สะดวกมากขึ้น โดยประชาชนสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ-หัวหิน ใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ1 ชั่วโมงครึ่ง
ทั้งนี้ตามแผนของกรมทางหลวง มอเตอร์เวย์ หรือ M8 สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 109 กม. วงเงิน 43,227 ล้านบาท จะดำเนินการก่อสร้างในระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. ปัจจุบันได้ทบทวนและจัดทำรายงานศึกษาการวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนฯแล้วเสร็จ คาดว่าจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบภายในเดือนกันยายน 2567
หลังจากนั้นจะเจรจาขอแหล่งเงินกู้และเปิดประมูลพร้อมลงนามสัญญา ในเดือนตุลาคม 2567-มิถุนายน 2569 และก่อสร้างงานโยธาภายในเดือนกรกฎาคม 2569-มิถุนายน 2573 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงปากท่อ-ชะอำ ระยะทาง 48 กม. ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาระยะเวลาเสนอขออนุมัติโครงการฯ
ขณะความคืบหน้าโครงการของกรมทางหลวง บนถนนพระราม2 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ ดังนี้
1.โครงการทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน -เอกชัย คืบหน้า 88.97% มี 3 ตอน ประกอบด้วย ทางยกระดับตอน 1 คืบหน้า 93.28% มีกิจการร่วมค้าเอ็นทีเอเป็นผู้รับจ้าง, ทางยกระดับตอน 2 คืบหน้า 85.48% มีบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คาดว่าทั้ง 2 ตอนแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 ส่วนทางยกระดับตอน 3 คืบหน้า 91.65% มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับจ้าง คาดว่าแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2567
2.โครงการ มอเตอร์เวย์ (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอนที่ 1-10 คืบหน้า 40.39% ตอน 1 คืบหน้า 48.42% มีบริษัทอุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง , ตอน 2 คืบหน้า 41.03% มีกิจการร่วมค้ากรุงธนไทย เป็นผู้รับจ้าง ,ตอน 3 คืบหน้า 37.05% มีกิจการร่วมค้าวีเอ็น เป็นผู้รับจ้าง, ตอน 5 คืบหน้า 49.29% มีบริษัทบางแสนมหานคร จำกัด เป็นผู้รับจ้าง, ตอน 7 คืบหน้า 31.50% มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับจ้าง ,ตอน 8 คืบหน้า 45.67% มีกิจการร่วมค้าซีซีเอสพี-เดอะซีอีซี เป็นผู้รับจ้าง ,ตอน 9คืบหน้า 65.74% มีกิจการร่วมค้าซีเอ็มซี-ทีบีทีซี เป็นผู้รับจ้าง และตอน 10 คืบหน้า 45.30% มีกิจการร่วมค้าเอส.เค. เป็นผู้รับจ้าง คาดว่าทั้ง 8 ตอน จะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2568 ส่วนตอน 4 คืบหน้า 36.27% มีบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง และตอน 6 คืบหน้า 20.87% มีกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอเอสไอ เป็นผู้รับจ้าง ทั้ง 2 ตอน จะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2568
3.ทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว คืบหน้า 51.87% มีบริษัทคริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2568
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ทางด่วน สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันตก ภาพรวมความคืบหน้า 74% เร็วกกว่าแผน 1% แบ่งเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นที่ กม.13+000 ของถนนพระราม 2 ถึง กม. 6+600 ของถนนพระราม 2 ระยะทาง6.4 กม. คืบหน้า 60.28% มีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี เป็นผู้รับจ้าง
สัญญาที่ 2 ทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นที่ กม.6+600 ของถนนพระราม 2 ถึงบริเวณทางแยกต่างระดับดาวคะนอง ระยะทาง5.3 กม. คืบหน้า 83.89% มีกิจการร่วมค้า CTB ,สัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร คร่อมตามแนวทางพิเศษเฉลิมมหานครช่วงดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 5 กม. คืบหน้า 66.28% มีกิจการร่วมค้า ITD-VCB เป็นผู้รับจ้าง โดยคาดว่าทั้ง 3 สัญญา จะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568
สัญญาที่ 4 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในรูปแบบของสะพานขึ้นคู่ขนานสะพานพระราม 9 ช่วงต่างระดับบางโคล่-ถนนสุขสวัสดิ์ คืบหน้า 100% มีบมจ.ช.การช่าง เป็นผู้รับจ้าง และสัญญาที่ 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคาจ้างก่อสร้าง