เฮ บอร์ดค่าจ้างมีมติขึ้นค่าแรงนำร่อง 10 จังหวัดท่องเที่ยว มีผล 13 เม.ย.นี้

26 มี.ค. 2567 | 10:05 น.

แรงงานเฮลั่น "บอร์ดค่าจ้าง" มีมติเอกฉันท์ขึ้นค่าจ้าง 400 บาท นำร่องใน 10 จังหวัดท่องเที่ยวเป็นของขวัญวันสงกรานต์ มีผล 13 เม.ย.นี้

26 มีนาคม 2567 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ครั้งที่ 3/2567 เพื่อพิจารณาการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การบริการโรงแรมและที่พักในพื้นที่ 10 จังหวัด

โดยคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในวันนี้เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมเพื่อใช้สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป เห็นชอบให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 400 บาท และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567 นำร่องในเขตพื้นที่จังหวัด 10 จังหวัด ดังนี้

1.กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตปทุมวัน และเขตวัฒนา

2.จังหวัดกระบี่ เฉพาะเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง

3.จังหวัดชลบุรี เฉพาะเขตเมืองพัทยา

4.จังหวัดเชียงใหม่ เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 

5.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะเขตเทศบาลหัวหิน

6.จังหวัดพังงา เฉพาะเขตเทศบาลตำบลคึกคัก  

7.จังหวัดภูเก็ต

8.จังหวัด ระยอง เฉพาะเขตตำบลบ้านเพ

9.จังหวัด สงขลา เฉพาะเขตเทศบาลนครหาดใหญ่

10.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เฉพาะเขตอำเภอเกาะสมุย 
 
ทั้งนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ขณะที่ธุรกิจการให้บริการที่พักแรมมีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องและ 10 พื้นที่/จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง

คณะกรรมการค่าจ้างฯ จึงได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมครั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  

สำหรับการประชุมไตรภาคีในวันนี้ทุกฝ่ายมีมติเป็นเอกฉันท์ซึ่งจะนำร่องก่อน อย่างน้อยจะมองค่าแรงในมิติเดิม ๆ ไม่ได้แล้ว เราต้องมีมิติพิจารณาในประเภทกิจการเป็นรายจังหวัดก่อน ซึ่งหลังจากนี้ทางไตรภาคีจะพิจารณาอัตราค่าจ้างในประเภทกิจการอื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและการจ้างงานด้วย
 
ทั้งนี้ คณะกรรมการค่าจ้างฯ ได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม โดยพิจารณาบนพื้นฐานของความเสมอภาค และรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้าง/ลูกจ้าง สามารถประกอบธุรกิจและดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างจะได้มีการติดตามผลกระทบที่เกิดจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมเพื่อนำไปสู่การพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของคณะกรรมการค่าจ้างด้วยความรอบคอบต่อไป

หลังจากนี้สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างจะเสนอเรื่องไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 2 เมษายนนี้เพื่อให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ก่อนประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นายไพโรจน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย