ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบรายงานของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบกว่า มีการรายงานเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 1/67 เติบโตอยู่ที่ 5.3% YoY โดยสูงกว่า consensus ที่ 4.6% และสูงขึ้นจากไตรมาส 4/66 ที่ 5.2%YoY ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจาก ภาคการผลิต (Secondary industry) ที่ขยายตัว 6.0% YoY ขณะที่ภาค บริการเติบโตได้อยู่ที่ 5.0%YoY โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ในปี 2567 การใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะภาคบริการและการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการทาง การเงินเพิ่มเติมและมาตรการการคลังเฉพาะจุดจะเป็นปัจจัยหนุนสาคัญของ เศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนยังเผชิญความเสี่ยงสาคัญหลาย ประการ ได้แก่
1.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด-19 โดยเดือน ก.พ. 67 ดัชนีความเช่ือมั่นผู้บริโภคอยู่ท่ี 89.1 จะส่งผลให้การ ฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศโดยเฉพาะสินค้าคงทนและการลงทุนฟื้นตัวได้จำกัด ในขณะที่มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินมีผลต่อ เศรษฐกิจลดลง
โดยระดับการปรับลดสัดส่วนการกันสารองของธนาคาร พาณิชย์ (RRR) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ก.พ. 67 ที่ 0.5% จาก ระดับ 10.5% มาอยู่ที่ 10.0% แต่การเติบโตของสินเชื่อกลับมีแนวโน้ม ชะลอตัวลง โดยการเติบโตของสินเชื่อในเดือนก.พ.67 เติบโตลดลงจาก เดือนก่อนท่ี 10.1% จาก 10.4% ใน ม.ค. 67 ทั้งนี้คาดว่าจีนยังมีแนวโน้ม ปรับลด RRR และอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 67
2.แรงกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอยู่ โดยมาตรการชว่ยเหลือที่ออกมาอย่างต่อเนื่องยังไม่สามารถฟื้นสถานการณ์ผู้ซื้อบ้าน (อุปสงค์) และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (อุปทาน) ได้
3.สถานการณ์เรื่องภูมิรัฐศาสตร์และปัญหากาลังการผลิตส่วนเกิน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน โดยสถานการณ์ระหว่างจีนกับทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังมีประเด็นท่ีต้องติดตาม ดังน้ี
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจจีนดังกล่าวประกอบกับการผ่อนคลาย นโยบายการเงินเพิ่มเติมของจีนอาจจะมีข้อจำกัดมากขึ้น หากธนาคารกลาง สหรัฐฯ เลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายออกไป ในขณะที่ขนาดของ งบประมาณทางการคลังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสาคัญจากปีก่อนหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่เหลือของปี 2567 ยังมี แนวโน้มจะเติบโตได้ต่ากว่า 4.5% โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2/67 ที่มีปัจจัย กดดันจากฐานที่สูงในปีก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนทั้งปี 2567 ยังคาดว่าจะ เติบโตที่ 4.5%