เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน เม.ย. 2567 พลิกกลับเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ที่ 0.19% YoY และหากเทียบกับเดือนก่อนหน้า ปรับเพิ่มขึ้นที่ 0.85% MoM โดยเป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกประกอบกับมีการทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผักสดและผลไม้สดปรับสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง
ในขณะที่ หากหักราคาอาหารสดและพลังงานออก เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน เม.ย. 2567 ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าโดยอยู่ที่ 0.37% YoY สะท้อนว่าการปรับขึ้นของเงินเฟ้อเป็นผลจากราคาพลังงานและสินค้าเกษตรเป็นหลัก ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากอุปสงค์ในประเทศยังมีจำกัด ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ -0.54% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ 0.42% YoY
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมองเงินเฟ้อทั่วไปของไทยหลังจากนี้มีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง โดยยังคงประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 ที่ 0.8%
เงินเฟ้อที่พลิกกลับเป็นบวกในเดือนเม.ย. 2567 และมีแนวโน้มกลับเข้าสู่เป้าหมายของกนง. ที่ 1-3% ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้แรงกดดันให้ กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายนั้นมีลดลง ขณะที่ กนง. มีแนวโน้มจะให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาทมากขึ้น ซึ่งท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและแรงกดดันจากนโยบายการเงินทั่วโลกที่ตึงตัวนานกว่าคาด ส่งผลให้ กนง. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ไปตลอดทั้งปี 2024