เปิดข้อมูล 5 ธุรกิจ “โน้ส อุดม แต้พานิช” ที่มีทั้งกำไรและขาดทุน

08 พ.ค. 2567 | 04:49 น.

เปิดข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบ 5 ธุรกิจที่มี “โน้ส อุดม แต้พานิช” เป็นกรรมการ ที่มีทั้งบริษัทที่ทำกำไรและขาดทุน

"เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์" ของนักเดี่ยวไมโครโฟนอย่าง “โน้ส อุดม แต้พานิช” กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโลกออนไลน์ นับตั้งแต่ Netflix ปล่อยทอล์กโชว์ดังกล่าวให้สมาชิกได้รับชมเมื่อ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นมา

เพราะมีเนื้อหาบางส่วนที่ถูกตัดเป็นคลิปสั้นบางช่วงบางตอน ทำให้หลายคนไม่พอใจ ถึงขั้นโพสต์คลิปข้อความตอบโต้ และบางคนถึงกลับมีการร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดี 

ฐานเศรษฐกิจ รวบรวมข้อมูล ที่น่าสนใจของ โน้ส อุดม แต้พานิช พบว่า ความจริงแล้ว ชื่อเล่นว่า อู๊ด แต่รู้จักกันในชื่อ โน้ส มาจากคำว่า nose ที่แปลว่า จมูก เพราะเป็นฉายาที่เพื่อนตั้งให้แล้วเรียกกันจนติดปาก 

โน้ส อุดม เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ปัจจุบันอายุ 55 ปี ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าปัจจุบันมีบริษัทในมืออย่างน้อย 5 บริษัท ที่ยังเปิดทำการอยู่ ได้แก่ บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด บริษัท ทุเรียน จำกัด บริษัท เอ็ม.โอ.ดี. ช็อป จำกัด บริษัท พอดีพานิช จำกัด และ บริษัท ลองรวย จำกัด

 

บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด

เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105561012486 จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 22 ม.ค. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ย่านถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร มีนายอุดม แต้พานิช เป็นกรรมการเพียงผู้เดียวประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน “การจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า” วัตถุประสงค์จัดงานแสดงโชว์ รับจ้างแสดง ถ่ายโฆษณา แสดงแบบ

ปีที่ส่งงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าล่าสุดคือปี 2565  พบว่า 

  • สินทรัพย์รวม 136,575,134.48 บาท
  • หนี้สินรวม 80,900,447.30 บาท 
  • รายได้รวม 230,817,842.82 บาท
  • รายจ่ายรวม 181,148,764.24 บาท
  • กำไร 43,630,419.66 บาท


บริษัท ทุเรียน จำกัด


เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105546125551 วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง 14 ต.ค. 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีนายอุดม แต้พานิช เป็นกรรมการเพียงผู้เดียว ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด คือ การผลิตไอศกรีมและไอศกรีมหวานเย็น วัตถุประสงค์ จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และเบเกอรี่

ปีที่ส่งงบการเงินคือปี 2565 พบข้อมูลดังนี้ 

  • สินทรัพย์รวม 4,502,703.73 บาท
  • หนี้สินรวม 11,462,851.95 บาท
  • รายได้รวม 3,259.65 บาท
  • รายจ่ายรวม 2,166,871.76 บาท
  • ขาดทุน 2,163,612.11 บาท

นับว่าตั้งแต่ปี 2561 บริษัทนี้ทำกำไร 2,415,722.75 บาท 2562 กำไร 2,956,226.60 บาท และจากนั้นเริ่มขาดทุนเมื่อปี 2563 คือขาดทุน 10,965,608.26 บาท และปี 2564 ขาดทุน 6,057,330.67 บาท 


บริษัท เอ็ม.โอ.ดี. ช็อป จำกัด
 

เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105557154484 วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง วันที่ 16 ต.ค. 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท รายชื่อกรรมการมี 2 คน คือ นายวุฒิไกร สายนาค และ นายอุดม แต้พานิช ประเภทธุรกิจคือ กิจกรรมการออกแบบเฉพาะด้านอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ ในที่อื่น วัตถุประสงค์ ออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก ทุกชนิด

ปีที่ส่งงบการเงินล่าสุดคือปี 2565 พบว่า 

  • สินทรัพย์รวม 20,925,498.32 บาท
  • หนี้สินรวม 222,230.21 บาท
  • รายได้รวม 16,758,915.14 บาท
  • รายจ่ายรวม 15,915,692.93 บาท 
  • กำไร 826,789.83 บาท 

 

บริษัท พอดีพานิช จำกัด

เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105539098446 วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง 4 ก.ย. 2539 ทุนจดทะเบียน5 ล้านบาท  รายชื่อกรรมการ ประกอบด้วยนายอุดม แต้พานิช และนายสันติ แต้พานิช ประเภทธุรกิจ ร้านขายปลีกหนังสือหนังสือพิมพ์วารสารและนิตยสาร วัตถุประสงค์ออกแบบผลิตภัณฑ์ รับจ้างการแสดง และเขียนหนังสือเพื่อจำหน่าย

ปีที่ส่งงบการเงินล่าสุดคือปี 2565 พบว่า 

  • สินทรัพย์รวม 123,082,398.75 บาท
  • หนี้สินรวม 441,462.86 บาท
  • รายได้รวม 1,449,158.95 บาท
  • รายจ่ายรวม 5,291,774.11 บาท
  • ขาดทุน 3,842,615.16 บาท

ซึ่งเป็นบริษัทที่เมื่อปี 2561 เคยทำกำไรถึง 25,615,925.97 บาท และหลังจากนั้นก็ประสบภาวะขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2562 ขาดทุน 9,077,035.16 บาท 2563 ขาดทุน 4,989,513.71 บาท และ 2564 ขาดทุน 4,127,671.67 บาท

 

บริษัท ลองรวย จำกัด
 

เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105563099449 วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง 8 ก.ค. 2563 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท  รายชื่อกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย นายอุดม แต้พานิช นายนพปฎล พิริยะกุล และนายนำโชค ทะนัดรัมย์ ประเภทธุรกิจ ร้านขายของชำ วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการขายปลีก ตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค

ปีที่ส่งงบการเงินล่าสุดปี 2565 พบว่า 

  • สินทรัพย์รวม 1,216,017.22 บาท
  • หนี้สินรวม 703,090.00 บาท
  • รายได้รวม 49,265.85 บาท
  • รายจ่ายรวม 285,206.32 บาท
  • ขาดทุน 235,940.47 บาท

 

ที่มาข้อมูล : ระบบ datawarehouse กรมพัฒนาธุรกิจการค้า