Play
ดันไทย'มารีน่าฮับ'ซูเปอร์ยอชต์
“กอบกาญจน์” ดันไทยมารีน่า ฮับ สำหรับยอชต์-ซูเปอร์ยอชต์ ททท.คาดว่าปี2560 เรือยอชต์เข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในไทยไม่ตํ่ากว่า 2,500 ลำ“ลักซ์เบิร์ธส์” เปิดตัวแพลตฟอร์มการจองท่าเรือระดับโลก
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าเป้าหมายการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำของประเทศไทย คือส่งเสริมให้ไทยเป็นมารีน่า ฮับ สำหรับเรือยอชต์ และซูเปอร์ ยอชต์ (เรือที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 เมตรขึ้นไป)เพื่อสร้างให้ไทยเป็นควอลิตี เลเชอร์ เดสติเนชัน และสานความฝันให้ไทยเป็นแคริบเบียน แห่งที่ 2 ซึ่งการท่องเที่ยวแบบเรือยอชต์ มีการใช้จ่ายสูงกว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉลี่ยซูเปอร์ ยอชต์ จะมีการใช้จ่ายสูงถึง 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว35.45-70.9 ล้านบาท) ต่อหนึ่งฤดูกาลในประเทศที่จอดเทียบท่า
ดังนั้นจึงมีนโยบายชัดเจนที่จะส่งเสริมให้มีซูเปอร์ ยอชต์ เข้าไทยเพิ่มขึ้น โดยการจัดงานไทยแลนด์ ยอชต์ โชว์ ที่อ่าวปอ มารีน่า ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12-18 ธันวาคมที่ผ่านมาก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งพบว่า มีเรือขนาดใหญ่มาร่วมงานมากขึ้นกว่าเดิม กว่า 15 ลำ โดยเป็นครั้งแรกที่มีเรือซูเปอร์ ยอชต์ ขนาดใหญ่ถึง 90เมตร เข้ามาจอดที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย และตลอดการจัดงานมีผู้เข้าชม
งานกว่า 6,000 คน คาดว่าเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว60-100 ล้านบาท
“ในการประชุม รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนครั้งที่ 36 ( ASEAN Tourism Forum ATF 2017) ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็มีการหารือถึงการท่องเที่ยวทางน้ำ (มารีไทม์ ทัวริซึม) ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายการเดินทางท่องเที่ยวน้ำในภูมิภาคนี้ให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางเชื่อมโยง เมืองท่องเที่ยวชายทะเล เช่น ภูเก็ต สีหนุวิลล์ (กัมพูชา) และฟูก๊วก (เวียดนาม) การเดินเรือสำราญและเรือยอชต์ในอาเซียนโดยจะต้องหารือร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรจะทำให้กฎระเบียบทางน้ำ ให้สอดคล้องกัน”
นายนภดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า คาดว่าในปี2560 จะกระตุ้นอัตราการนำเรือยอชต์เข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในไทยได้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ลำ ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจราว 7,000 ล้านบาทในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งการเติบโตของเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ในไทยยังเป็นโอกาสของธุรกิจแพลตฟอร์มการจองท่าเรือระดับโลก สำหรับเรือซูเปอร์ยอชต์ที่ได้ขยายการให้บริการมายังเอเชียด้วย อย่างล่าสุด “ลักซ์เบิร์ธส์” www.LuxBerths.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม การโปรโมตเส้นทางการเดินเรือยอชต์ทั่วโลก ก็ได้เข้ามาเปิดตัวธุรกิจของบริษัทภายในงานไทยแลนด์ ยอชต์ โชว์ 2016 เป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยปัจจุบันมีท่าเรือเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 500 แห่ง ซึ่งมีท่าเทียบเรือสำหรับเรือซูเปอร์ยอชต์จำนวนมากกว่า 18,000 ท่า ช่วยให้เจ้าของและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับเรือซูเปอร์ยอชต์ได้รับความรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้บริการผ่านระบบจองท่าเรือทุกแห่งบนโลก
ลักซ์เบิร์ธส์ ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้แก่กัปตันในการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของท่าเรือรวมไปถึงลักษณะของจุดหมายปลายทาง โดยจะให้ข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของสถานที่ล่องเรือ
ทั้งนี้หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มแรกที่เข้าร่วมกับ ลักซ์เบิร์ธส์ คือ Aseanarean Bluewater Alliance(ABA) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีท่าเรือต่างๆ ร่วมเป็นสมาชิกกว่า 13 แห่ง ในทวีปเอเชีย อาทิ แรฟเฟิลส์ มารีน่า โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ และ ภูเก็ต โบ๊ท ลากูน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าเป้าหมายการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำของประเทศไทย คือส่งเสริมให้ไทยเป็นมารีน่า ฮับ สำหรับเรือยอชต์ และซูเปอร์ ยอชต์ (เรือที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 เมตรขึ้นไป)เพื่อสร้างให้ไทยเป็นควอลิตี เลเชอร์ เดสติเนชัน และสานความฝันให้ไทยเป็นแคริบเบียน แห่งที่ 2 ซึ่งการท่องเที่ยวแบบเรือยอชต์ มีการใช้จ่ายสูงกว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉลี่ยซูเปอร์ ยอชต์ จะมีการใช้จ่ายสูงถึง 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว35.45-70.9 ล้านบาท) ต่อหนึ่งฤดูกาลในประเทศที่จอดเทียบท่า
ดังนั้นจึงมีนโยบายชัดเจนที่จะส่งเสริมให้มีซูเปอร์ ยอชต์ เข้าไทยเพิ่มขึ้น โดยการจัดงานไทยแลนด์ ยอชต์ โชว์ ที่อ่าวปอ มารีน่า ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12-18 ธันวาคมที่ผ่านมาก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งพบว่า มีเรือขนาดใหญ่มาร่วมงานมากขึ้นกว่าเดิม กว่า 15 ลำ โดยเป็นครั้งแรกที่มีเรือซูเปอร์ ยอชต์ ขนาดใหญ่ถึง 90เมตร เข้ามาจอดที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย และตลอดการจัดงานมีผู้เข้าชม
งานกว่า 6,000 คน คาดว่าเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว60-100 ล้านบาท
“ในการประชุม รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนครั้งที่ 36 ( ASEAN Tourism Forum ATF 2017) ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็มีการหารือถึงการท่องเที่ยวทางน้ำ (มารีไทม์ ทัวริซึม) ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายการเดินทางท่องเที่ยวน้ำในภูมิภาคนี้ให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางเชื่อมโยง เมืองท่องเที่ยวชายทะเล เช่น ภูเก็ต สีหนุวิลล์ (กัมพูชา) และฟูก๊วก (เวียดนาม) การเดินเรือสำราญและเรือยอชต์ในอาเซียนโดยจะต้องหารือร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรจะทำให้กฎระเบียบทางน้ำ ให้สอดคล้องกัน”
นายนภดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า คาดว่าในปี2560 จะกระตุ้นอัตราการนำเรือยอชต์เข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในไทยได้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ลำ ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจราว 7,000 ล้านบาทในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งการเติบโตของเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ในไทยยังเป็นโอกาสของธุรกิจแพลตฟอร์มการจองท่าเรือระดับโลก สำหรับเรือซูเปอร์ยอชต์ที่ได้ขยายการให้บริการมายังเอเชียด้วย อย่างล่าสุด “ลักซ์เบิร์ธส์” www.LuxBerths.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม การโปรโมตเส้นทางการเดินเรือยอชต์ทั่วโลก ก็ได้เข้ามาเปิดตัวธุรกิจของบริษัทภายในงานไทยแลนด์ ยอชต์ โชว์ 2016 เป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยปัจจุบันมีท่าเรือเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 500 แห่ง ซึ่งมีท่าเทียบเรือสำหรับเรือซูเปอร์ยอชต์จำนวนมากกว่า 18,000 ท่า ช่วยให้เจ้าของและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับเรือซูเปอร์ยอชต์ได้รับความรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้บริการผ่านระบบจองท่าเรือทุกแห่งบนโลก
ลักซ์เบิร์ธส์ ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้แก่กัปตันในการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของท่าเรือรวมไปถึงลักษณะของจุดหมายปลายทาง โดยจะให้ข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของสถานที่ล่องเรือ
ทั้งนี้หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มแรกที่เข้าร่วมกับ ลักซ์เบิร์ธส์ คือ Aseanarean Bluewater Alliance(ABA) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีท่าเรือต่างๆ ร่วมเป็นสมาชิกกว่า 13 แห่ง ในทวีปเอเชีย อาทิ แรฟเฟิลส์ มารีน่า โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ และ ภูเก็ต โบ๊ท ลากูน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560