สินค้าไทยแข่งสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯมั่นใจได้อานิสงส์ หากทรัมป์ก่อสงครามขึ้นภาษีสินค้าจีน เสื้อผ้า-ผลิตภัณฑ์ยางลุ้นดันตัวเลขโต ขณะกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไม่หวั่นสหรัฐฯลดนำเข้าจีนกระทบไทยทางอ้อม ชี้รง.มะกันย้ายกลับส่งผลดีทางตรง
จากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งสัญญาณจะเพิ่มเพดานภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯมากที่สุดนั้น สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา รายงานว่า ด้านผลดีจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทยในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มสินค้าที่ไทยแข่งขันกับจีนในตลาดสหรัฐฯได้แก่ ของเล่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อาหารทะเลแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
ส่วนผลเสียจะเป็นอุปสรรคสำหรับสินค้าวัตถุดิบการผลิตที่ไทยส่งออกไปจีนเพื่อผลิตเป็นสินค้าส่งออกต่อไปยังสหรัฐฯได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯในมุมบวกมากกว่า
นายชวลิต นิ่มละออ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทโอเรียนตอลการ์เมนท์ฯ ให้ความเห็นว่า หากสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนจริงจะส่งผลในเชิงบวกกับการส่งออกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม(การ์เมนต์)ของไทยซึ่งมีตลาดใหญ่ที่สหรัฐฯ ที่จะเป็นตัวเลือก และแข่งขันได้ดีขึ้นกับสินค้าจากจีน รวมถึงกรณีที่สหรัฐฯถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี)จะทำให้สินค้าการ์เมนต์ที่ผลิตในไทยส่งไปสหรัฐฯแข่งขันได้ดีขึ้นกับสินค้าจากเวียดนามที่เป็นสมาชิกทีพีพีเพราะไม่เสียเปรียบเรื่องภาษีมาก แต่ทั้งนี้ต้องรอดูความชัดเจนของสหรัฐฯในเรื่องการขึ้นภาษีสินค้าจีนว่าจะออกมาอย่างไร และจีนจะตอบโต้สหรัฐฯอย่างไร
ขณะที่นายชโย ตรังอดิศัยกุล รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนจริง ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยางสหรัฐฯจะต้องหาแหล่งนำเข้าอื่นทดแทนซึ่งไทยถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่มีศักยภาพน่าจะได้อานิสงส์ จากในปี 2559 ผลิตภัณฑ์ยางซึ่งมีล้อยางรถยนต์เป็นสินค้าหลัก ถือเป็นสินค้าอันดับ 2 ของไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ รองจากเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
"ก่อนหน้านี้ในปี 2558 สหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดหรือเอดีสินค้ายางรถยนต์จากจีน(87.99%)ส่งผลให้ค่ายยางรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 4 ใน 5 อันดับแรกของจีนได้มาลงทุนตั้งฐานผลิตในไทยแล้วได้แก่ จงเช่อรับเบอร์ หลิงหลง เซนจูรี่ไทร์ ที่กำลังสร้างโรงงานคือหวาอี้ กรุ๊ป และที่กำลังจะมาคือต้าตี้กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นแก้เกมสหรัฐฯ โดยมาใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออกไปสหรัฐฯและทั่วโลก หากสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้ายางรถยนต์ที่ผลิตในจีนอีก สินค้ายางรถยนต์ที่ผลิตในไทยอาจได้รับผลดีในการส่งออกเพิ่ม แต่ที่เรากังวลและต้องเฝ้าระวังคือยางรถยนต์ของบริษัทจีนที่เข้ามาตั้งฐานในไทยจะไปดัมพ์ราคาในสหรัฐฯอีก อาจทำให้สินค้ายางรถยนต์ของบริษัทคนไทยและชาติอื่นๆ ที่ตั้งฐานในไทยได้รับผลกระทบจากอาจถูกสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหมือนยางรถยนต์จีน"
ด้านนายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม ส.อ.ท. กล่าวว่า หากสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนจะกระทบต่อการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแผงวงจรไฟฟ้าของไทยไปจีนที่จะลดลง แต่อีกด้านหนึ่งหากสหรัฐฯสามารถดึงบริษัทผลิตสินค้าด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กลับไปลงทุนในประเทศได้จริง ไทยจะได้รับอานิสงส์จากสหรัฐฯจะมีการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรไฟฟ้าจากไทยโดยตรงเพื่อไปผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้บริษัทที่จะได้รับประโยชน์มากคือ บริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอลฯ และบริษัทซีเกท เทคโนโลยีฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่จากสหรัฐฯที่มีฐานการผลิตตั้งอยู่ในไทย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,232 วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2560