ศึกชิงเค้กดิจิตอลทีวี

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันอินเตอร์เน็ต และการขยายตัวของระบบโทรคมนาคมแบบ 4G ของประเทศไทยได้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้คนไทยในปัจจุบันกว่า 69 ล้านคนมีพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป แต่การรับชมผ่านสื่อ "โทรทัศน์" ก็ยังคงเป็นสื่อหลัก และยังเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงประชากรได้ดีที่สุด

จากการสำรวจของ UM Wave ซึ่งศึกษาถึงพฤติกรรมในการเข้าถึงสื่อแต่ละประเภทของคนไทยเมื่อปี 2016 ได้แสดงให้เห็นว่า โทรทัศน์ ยังคงเป็นสื่อหลักโดยสามารถเข้าถึงประชากรได้กว่า 68 ล้านคนหรือประมาณ 98% ของประชากรทั้งประเทศ ส่วนสื่อที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภครองลงมาคือ แล็ปท็อปหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการเข้าถึงได้ถึง 28 ล้านคนหรือประมาณ 41% เป็นสัดส่วนที่เท่ากันกับโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโมบาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ โทรทัศน์ ยังคงเป็นสื่อหลักที่สามารถทำรายได้สูงที่สุด และเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่หอมหวานมาโดยตลอด ส่งผลให้แต่ละช่องต่างต้องพยายามสร้างหรือหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ดึงดูดผู้บริโภคเพื่อแย่งรายได้กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์แต่ละช่องสร้างเรตติ้งกันได้ขนาดไหนนั้นทีมงาน Strategy & Innovation ของ Initiative ได้นำข้อมูลมารายงานให้ผู้อ่าน I Connect ได้รับทราบไปด้วยกัน

ดังจะเห็นว่า รายได้ของกลุ่มโทรทัศน์ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปี 2016 มีมูลค่าหลักหลายหมื่นล้าน และมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นในทุก ๆ ปี โดยในปี 2010 เป็นเพียงรายได้จากกลุ่มอนาล็อกทีวีกับกลุ่มเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมมีรายได้ 60,766 ล้านบาท พอเข้าปี 2014 ที่เริ่มมีการเปิดดำเนินการของกลุ่มดิจิตอลทีวีเข้ามารายได้สูงขึ้นเป็น 82,714 ล้านบาท ปี 2015 รายได้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเป็น 88,775 ล้านบาท พอเข้าปี 2016 มีวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย และทำให้ภาพรวมของการซื้อสื่อโฆษณาตกลงไปด้วย ซึ่งในส่วนของกลุ่มโทรทัศน์เองก็มีรายได้รวมที่ลดลงเหลือ 76,596 ล้านบาท แต่จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในวงการสื่อโฆษณาเชื่อว่าในปี 2017 รายได้จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

จากกราฟนี้เปรียบเทียบให้เห็นถึงเรตติ้งเฉลี่ยของกลุ่มผู้นำดิจิตอลทีวีในช่วงต้นปี 2559 กับเรตติ้งเฉลี่ยในปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นว่าแนวโน้มความนิยมหรือเรตติ้งเฉลี่ยของดิจิตอลทีวีของช่อง 7HD และช่อง 3HD ที่เคยทิ้งห่างช่องดิจิตอลทีวีอื่น ๆ กลับเริ่มลดลง ในขณะที่กลุ่มดิจิตอลทีวีในหลาย ๆ ช่องเริ่มมีความนิยมหรือเรตติ้งเฉลี่ยที่ขยับสูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แต่ละช่องเองต่างมีการพัฒนาทางด้านคอนเทนต์ และผู้บริโภคเองก็มีการทางเลือกในการเสพสื่อที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นตามความชอบของตนเอง

สำหรับเรตติ้งเฉลี่ยล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมาความนิยมหรือเรตติ้งเฉลี่ยใน 10 อันดับผู้นำในช่องดิจิตอลทีวีของคนไทยเป็นอย่างไรกันบ้าง จากการสำรวจผู้ชมทั้งชาย และหญิงอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศของ เอซี นีลเส็น พบว่า ช่อง 7 ยังคงครองความนิยมเป็นอันดับ 1 ด้วย เรตติ้งเฉลี่ยที่ 2.841 ตามมาด้วยช่อง 3 ที่มี 1.882 ซึงดูเหมือนว่าทั้ง 2 ช่องมีความนิยมที่ลดลง ในขณะที่ช่อง Workpoint TV เริ่มมีเรตติ้งเฉลี่ยที่ดีขึ้นเป็น 1.490 น่าจะมีอานิสงส์มาจากรายการ The Mask Singer ที่สามารถฉุดเรตติ้งเฉลี่ยให้สูงมากขึ้น ช่อง Mono29 เหนียวแน่นเป็นอันดับที่ 4 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 0.858 ส่วนอันดับ 5 เป็นของช่อง One31 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยที่ 0.772 ตามมาติด ๆ กับช่อง 8 ที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.686 ที่มาแรงเห็นจะเป็นช่อง Now 26 ที่สรรหาคอนเทนต์เด็ด ๆ มาสร้าง เรตติ้งเฉลี่ยให้ไต่สูงขึ้นจนสามารถขยับขึ้นมาติด 1 ใน 10 ช่องดิจิตอลทีวีได้สำเร็จ

ในปัจจุบันการแข่งขันชิงเรตติ้งของเหล่าบรรดาดิจิตอลทีวีเป็นไปอย่างดุเดือด ซึ่งจะเห็นได้ว่าดิจิตอลทีวีแต่ละรายต่างไม่หยุดนิ่งพยายามพัฒนา และลงทุนสรรหาคอนเทนต์ที่เด็ด ๆ และโดน ๆ เพื่อพยายามรักษาตำแหน่ง และไต่อันดับขึ้นมาให้ได้ เพราะนั่นหมายถึงการแย่งชิงรายได้จากงบโฆษณาที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท โดยมีผู้ชมทั่วประเทศเป็นผู้ตัดสิน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,248 วันที่ 30 มีนาคม - 1 เมษายน พ.ศ. 2560