‘เจริญ’ปั้นแลนด์มาร์ก ดัน‘วันแบงค็อก’มูลค่า 1.2 แสนล้านเทียบชั้นโลก

06 เม.ย. 2560 | 02:00 น.
“เจ้าสัวเจริญ” ระดมธุรกิจในเครือทีซีซี ร่วมมือเฟรเซอร์ส พัฒนาอภิโครงการมิกซ์ยูส “วัน แบงค็อก” ปั้นเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกใจกลางเมือง บนหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดวิทยุ งบลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ยกระดับภาพลักษณ์กรุงเทพฯสู่ประตูเชื่อมโลกกับเอเชีย คาดปี 2564 เปิดส่วนแรก รีเทล โรงแรม และอาคารสำนักงาน

หลังจากบริษัท เกษมทรัพย์วัฒนะ จำกัด ของกลุ่มบริษัท ทีซีซี ชนะการประมูลที่ดินบนหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดถนนวิทยุ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เมื่อปี 2557 ล่าสุดบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด (FCL) พลิกโฉมพื้นที่ขนาด 104 ไร่ ใจกลางกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนจะต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้แห่งหนึ่งของโลก โดยโครงการดังกล่าวนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นเมืองแห่งความครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทยที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องคนเป็นศูนย์กลาง เรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตเมืองอย่างชาญฉลาด

นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ทีซีซี และ FCL ย้ำว่า ทางกลุ่มได้ดำเนินการวางแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสำเร็จเป็นโครงการ"One Bangkok" (วัน แบงค็อก) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง 2 บริษัทในกลุ่ม ทีซีซี ได้แก่ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท

“สิ่งที่คาดหวังในการเนรมิตโครงการ ‘One Bangkok’ (วัน แบงค็อก) คือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อประเทศไทยในฐานะเมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นเมืองที่เป็นประตูสู่โลกและเป็นเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญของเอเชีย รวมทั้งคาดหวังที่จะนำความรุ่งเรืองที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่า เจ้าของ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ” นายเจริญ กล่าว

สำหรับการร่วมมือกันระหว่าง 2 บริษัทเป็นการช่วยผสานจุดแข็งทางการเงินและความรู้ความเข้าใจตลาดภายในประเทศของทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) เข้ากับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FCL กล่าวว่า โครงการวัน แบงค็อกถือเป็นโครงการขนาดใหญ่โครงการเดียวในประเทศไทยที่พัฒนาโดยเอกชน ที่พัฒนาและออกแบบโดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง (people-centric) แห่งแรกของกรุงเทพฯ มุ่งเน้นให้ผู้คนสามารถอยู่อาศัย ทำงาน และพักผ่อนภายในที่แห่งเดียว

โดยบริษัทที่รับหน้าที่บริหารจัดการโครงการคือ บริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้ง จำกัด คาดว่าโครงการในส่วนของรีเทล โรงแรม และอาคารสำนักงานจะแล้วเสร็จในปี 2564 ทั้งนี้ เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับโครงการก่อนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับอาคารไฮไลท์ขนาด 90 ชั้น ความสูง 380 เมตรได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกพิกุล ในส่วนของอาคารที่เหลือและพื้นที่โดยรอบคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ ในปี 2568 เบื้องต้นคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี

“เดิมบริษัทได้ประมูลที่ดินผืนดังกล่าวมาในเนื้อที่กว่า 90 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดกับถนนวิทยุ โดยได้มีการลงนามสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาที่ดินดังกล่าว ซึ่งมีระยะเวลาในการให้เช่า 30 ปีต่อ 30 ปี แต่ด้วยแผนการพัฒนาโครงการที่บริษัทยื่นเสนอไป ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงของโครงการ ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงให้เช่าที่เพิ่มเป็น 104 ไร่”นายปณต กล่าว

นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก กล่าวว่า เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดของโครงการ วัน แบงค็อก เสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 จะมีพื้นอาคารรวม ทั้งหมด 1.83 ล้านตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอที่สร้างตามมาตรฐาน LEED** และ WELL*** โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ 3 อาคาร พร้อมด้วยร้านค้าปลีกและพื้นที่ทำกิจกรรมที่หลากหลายครบครันโดยคาดว่าจะมีผู้คนมากกว่า 60,000 คนเข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการ

ทั้งนี้ โครงการ"one Bangkok" ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 104 ไร่ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอมาตรฐาน LEED และ WELL รวม 5 อาคาร โรงแรมหรู 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับอัลตราลักชัวรี่ 3 อาคาร ร้านค้าปลีกและพื้นที่ทำกิจกรรมที่หลากหลาย พื้นที่กิจกรรมและศิลปะวัฒนธรรมขนาด 10,000 ตารางเมตร ทางเดินกว้างกว่า 40 เมตร พร้อมสวนขนาด 50 ไร่ คาดว่าจะสามารถให้บริการในพื้นที่ส่วนแรกในปี 2564

อนึ่ง เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คือ แบรนด์โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติของ FCL ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ มีสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 17,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 605,000 ล้านบาท มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับด้วยผลงานความสำเร็จในการการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับเมืองที่โครงการนั้นๆ ตั้งอยู่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,250 วันที่ 6 - 8 เมษายน พ.ศ. 2560