จากัวร์-แลนด์โรเวอร์ สิ่งสำคัญคือการดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดีที่สุด

29 เม.ย. 2560 | 12:00 น.
หลังจากบริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ได้ถือสิทธิในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์จากัวร์ หรือ แลนด์โรเวอร์ ในประเทศไทยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา จวบจนปัจจุบันชื่อของอินช์เคปได้เป็นที่รู้จักและยอมรับจากกลุ่มลูกค้ารถหรูจากเมืองผู้ดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังจะเห็นจากยอดขายและยอดจองที่เริ่มมีตัวเลขเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จากแนวโน้มความนิยมดังกล่าว ส่งผลให้แนวทางการตลาดในปีนี้ทวีความเข้มข้น ซึ่งวันนี้ ฐานฯยานยนต์ ได้สัมภาษณ์ ชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะมาบอกเล่าถึงแนวทางการตลาด รวมไปถึงเป้าหมายว่าจะเดินไปทิศทางไหน และมีอะไรเป็นไฮไลท์เด็ดของปีนี้

 การตอบรับของแบรนด์
เราเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในช่วงปลายปี และมีการปรับโครงสร้างด้านต่างๆอาทิ ราคาขาย ยกตัวอย่าง เรนจ์โรเวอร์ เดิม 12 ล้านบาท ก็ปรับลดลงเหลือ 9 ล้านบาท หรือ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ จากราคา 9 ล้านบาท ก็ปรับลดลงเหลือ 8 ล้านบาท ขณะที่ราคารถเริ่มต้นก็ถูกลง เริ่มตั้งแต่ 3.499 ล้านบาทสำหรับจากัวร์ รุ่น เอ็กซ์อี ส่วนแลนด์โรเวอร์ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.999 ล้านบาทในรุ่นอีโวค

นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านราคาแล้ว สิ่งที่เราได้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคือการรับประกันสินค้าผ่านแคมเปญ “Worry-free” - บริการซ่อมบำรุง-ประกันภัย-บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนน ฟรี 5 ปี และยังมีการทำเซอร์วิส แพคเกจ ในราคาพิเศษเพื่อให้ลูกค้าจ่ายในราคาที่สบายมากขึ้น ส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่เรามีข้อเสนอทางการเงิน อาทิ โปร ชอยส์ โปรแกรมผ่อนรายเดือนในอัตราที่ต่ำกว่า 1% ของราคารถ หรือจะผ่อนแบบบอลลูน

 แผนงานหลักในปี 2560
ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา เราเพิ่งจะเปิดตัวรถ 4 รุ่นได้แก่ ออลนิว จากัวร์ เอฟเพซ , เรนจ์โรเวอร์ อีโวค , จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ และ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด ซึ่งผลตอบรับภายในงานถือว่าดีมาก มียอดจองแบ่งออกเป็น แลนด์โรเวอร์ 60 % หรือคิดเป็นยอด 18 คัน และ จากัวร์ 40 % หรือคิดเป็นยอด 13 คัน และเมื่อรวมกับผลการดำเนินงานของไตรมาสแรกพบว่ายอดขายเกินเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ซึ่งแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ในครึ่งปีหลังจะเปิดตัวแลนด์โรเวอร์ ดิสคัพเวอรี่ ในเดือนสิงหาคม และ เรนจ์ โรเวอร์ เวลาร์ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ ซึ่งรถทั้ง 2 รุ่นมีลูกค้าให้ความสนใจสั่งจองแล้วบางส่วน เนื่องจากลูกค้ารับทราบข้อมูลการเปิดตัวในตลาดโลกแล้ว และบริษัทฯก็พร้อมที่จะนำเข้าและส่งมอบรถได้ทันทีหลังจากงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 กิจกรรมการตลาด
ปีนี้จะเห็นกิจกรรมทางการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น จะมีการจัดอีเว้นท์ –ทดสอบรถ - เข้าร่วมงานโรดโชว์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถของเรา และจะให้ความสำคัญกับดิจิตอลมากขึ้น มีการสื่อสารผ่านเวบไซต์ ,แอพพลิเคชั่น และโซเซียล มีเดีย

ล่าสุดได้จับมือกับ โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ดิโพลแมทสกรีน จัดโปรแกรม Jaguar Land Rover Movie limo service โดยมีการนำแลนด์โรเวอร์ สปอร์ต และจากัวร์ เอ็กซ์เจมาบริการในรูปแบบรถลิมูซีน แบบส่วนตัวรับ-ส่งเพื่อมอบประสบการณ์การให้กับลูกค้าที่จะได้สัมผัสกับยนตรกรรมสุดหรู นอกจากนั้นแล้วยังมี The Black Card ที่มอบส่วนลดพิเศษ 50% เมื่อลูกค้าซื้อบัตรชมภาพยนตร์ทุกเรื่องทุกรอบ

 ผุดแผนกรถมือสอง
เราจะเปิดโปรแกรมรถมือสอง หรือ แอพพรูฟ โปรแกรม เพื่อเป็นโซลูซั่นให้กับคนซื้อ และคนขายรถแบรนด์ของเรา และจะนำไปสู่การต่อยอดในธุรกิจอาฟเตอร์เซลส์ หรือบริการหลังการขายได้ โดยรถในแผนกของเราจะผ่านการตรวจสอบ 135 รายการ รับประกัน 2 ปี และเป็นรถที่วิ่งไม่เกิน 9.6 หมื่นกิโลเมตร หรืออายุไม่เกิน 5 ปี โดยจะเปิดตัวแผนกนี้อย่างเป็นทางการในช่วง 2 – 3 เดือนข้างหน้า

 เพิ่มจำนวนโชว์รูม
ปัจจุบันจากัวร์ และแลนด์โรเวอร์ มีโชว์รูมและศูนย์บริการตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 และภายในสิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งในกรุงเทพ โดยจะเป็นคอนเซปต์ใหม่ที่แตกต่างจากโชว์รูมทั่วไป

 เป้าหมายในปี 2560
จนถึงสิ้นปี ยอดขายในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20% นอกจากนั้นแล้วรายได้ในส่วนของการบริการก็จะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะมาจากการขายรถ 70% และบริการหลังการขาย 30%

 การแข่งขันตลาดรถหรู
เฉพาะในกลุ่มลักซัวรี่แข่งขันกันดุเดือด เพราะแต่ละค่ายมีรถรุ่นใหม่มีการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดออกมาต่อสู้กันแต่ตัวแปรสำคัญของตลาดนี้คือการดูแลลูกค้า เพราะปัจจุบันสัดส่วนของลูกค้าที่ซื้อรถคือการบอกต่อ และเป็นการซื้อเพิ่ม ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดีที่สุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560