พาณิชย์ออกมาตรการเข้ม ให้ผู้ประกอบการที่จะปรับขนาดสินค้าต้องแจ้งไปที่กรมการค้าภายในใน 30 วัน หลังได้รับร้องเรียนจากผู้บริโภคมีปรับลดขนาดแต่ไม่ลดราคา ระบุยังอยู่ในเกณฑ์ราคาแนะนำ คาดหารือรอบสอง สัปดาห์หน้า
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ห้างค้าปลีก 8 ราย มาหารือ( 9 พ.ค.60)ในประเด็นที่มีการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทางอ้อมโดยการลดปริมาณและขนาดบรรจุภัณฑ์แต่จำหน่ายในราคาเดิมนั้น เรื่องนี้กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าขณะนี้มีผู้ผลิตสินค้าบางรายการที่มีการปรับลดขนาดบรรจุและได้ลดราคาลงตามสัดส่วนขนาดบรรจุที่ลดลงด้วย เช่น ครีมอาบน้ำ ตราโพรเทคส์ และน้ำยาซักฟอก ตรา บรีส เอ็กเซล ที่มีการปรับขนาดบรรจุลดลงแต่ราคาจำหน่ายคงเดิม แต่เป็นเพราะได้ลดราคาจำหน่ายลงมาก่อนแล้ว
ทั้งนี้สาเหตุที่มีการปรับลดขนาดเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอย่างสารเคมีบางตัวมีราคาสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตเองได้แบกรับต้นทุนในส่วนนี้มาพอสมควร แต่การปรับขนาดลงยังอยู่ในเกณฑ์ราคาที่กรมควบคุมอยู่ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ครีมอาบน้ำ ตราโพรเทคส์ ขนาดบรรจุเดิม 500 มิลลิลิตร ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำที่พิจารณาตามข้อมูลต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ผู้ผลิตได้แจ้ง (ตั้งแต่ปี 2557)กำหนดไว้ที่ที่ 184 บาท แต่มีการลดราคาจำหน่ายปลีกเหลือ 165 บาท ปัจจุบันเลิกผลิตขนาดนี้แล้ว โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 บริษัทได้ปรับลดขนาดบรรจุเหลือ 450 มล. (เปลี่ยนกลิ่น) ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำอยู่ที่ 165 บาท ราคาจำหน่ายในห้างค้าปลีก 165 บาทซึ่งเป็นราคาเดิมและไม่สูงกว่าราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ
ต่อมาคือน้ำยาซักฟอก ตรา บรีส เอ็กเซล ขนาดบรรจุเดิม 800 มิลลิลิตร ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ (ตั้งแต่ปี 2557)กำหนดที่ 85 บาท จำหน่ายในห้างค้าปลีก 79 บาท (ปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว) และตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ปรับลดขนาดบรรจุลดลงเหลือ 750 มิลลิลิตร ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ 80 บาท ราคาจำหน่ายในห้างค้าปลีกเท่าเดิม 79 บาท ซึ่งอาจเป็นการปรับราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปริมาณที่ลดลงเล็กน้อย แต่ยังไม่สูงกว่าราคาปลีกแนะนำ
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงได้ขอความร่วมมือกับเอกชนในปรับราคาสินค้ามาโดยตลอด จากการหารือได้ข้อมูลจากเอกชนที่มีการปรับลดปริมาณไม่ลดราคาว่า ต้นทุนของสารเคมีที่ใช้ในการผลิตมีราคาสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และต้นทุนหัวน้ำหอมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือกับเอกชนหากจะมีการปรับลดขนาดขอให้แจ้งมาที่กรมการค้าภายในใน 30 วัน อย่างไรก็ตามภาคเอกชนได้ขอเวลาไปหารือกับฝ่ายบริหารของแต่ละบริษัทก่อน คาดจะกลับมาประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า