สรรหา คตง. วุ่น! สงสัย สตง. ล้ำเส้น

10 พ.ค. 2560 | 08:15 น.
วันที่ 10 พ.ค.60-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคำสั่งหัวหน้าคสช. 23/2560 กำหนดให้มีการคัดเลือกหรือสรรหาบุคคลเพื่อมาดำรงตำแหน่งแทนกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่พ้นตำแหน่งในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ หรือพ้นตำแหน่งตามวาระภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ให้ดำเนินการคัดเลือกหรือสรรหาบุคคลเพื่อมาดำรงตำแหน่งแทนให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนั้น ล่าสุดได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอนในกระบวนการสรรหาทั้งในเรื่องการปฏิบัติของฝ่ายธุรการคือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และปัญหาในข้อกฎหมาย ที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินชุดปัจจุบัน เห็นว่า การสรรหาไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากต้องรอให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินมีผลบังคับใช้ก่อน

 

โดย 4 กรรมการคตง.คนนำโดยนายชัยสิทธิ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ยกเว้นนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร เดินทางไปต่างประเทศ)ได้ทำหนังสือที่ ตผ0001/1980 ลงวันที่ 8 พ.ค. 2560 ถึงเลขาธิการวุฒิสภา ท้วงติงการคัดเลือกหรือสรรหาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดินใน 5 ประเด็นสำคัญคือ
1. การที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทำหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินขอให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินหรือ คตง.เสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นการกระทำที่น่าจะขัดต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 23/2560 ลงวันที่ 5 เม.ย. 2560 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาความต่อเนื่องของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ข้อ 9(4) ประกอบข้อ 14 ให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตั้งกรรมการสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดิน จึงสมควรที่จะมีหนังสือถึงประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินโดยตรง แทนที่จะทำหนังสือผ่านผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

 

2. การที่เลขาธิการวุฒิสภาไม่ทำหนังสือถึงประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินโดยตรงและมีการเลื่อนประชุมคณะกรรมการสรรหาฯให้เร็วขึ้นจากเดิม 18 พฤษภาคม เป็น 11 พฤษภาคม 2560 ในขณะที่ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวในวันที่ 2 พฤษภาคม และนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม คตง.ในวันที่ 4พฤษภาคม ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะร่วมเป็นกรรมการสรรหาฯได้ทัน เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป

 

3. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 23/2560 ข้อ 12 กำหนดว่าเมื่อมีกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งมีผลใช้บังคับพ้นจากตำแหน่งหรือจะพ้นจากตำแหน่งตามวาระภายใน 180 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้ดำเนินการคัดเลือกหรือสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทนให้แล้วเสร็จภาย 60วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง หรือนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้แล้วแต่กรณี ซึ่งมีกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่พ้นตำแหน่งก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้มี 2 คน คือ นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ซึ่งพ้นตำแหน่งไปเป็นเวลาปีเศษแล้ว เลยกรอบเวลาที่คำสั่งฯระบุให้มีการสรรหาแทนภายใน60 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง ส่วนกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่เหลืออยู่อีก 5 คนจะครบวาระในวันที่ 26 กันยายน 2560 จึงไม่มีเหตุให้ต้องสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดินในขณะนี้เพราะตำแหน่งยังมิได้ว่างลง

 

4 .ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 216 บัญญัติว่า กรรมการตรวจเงินแผ่นดินนอกจากจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามทั่วไปตามมาตรา 216(1) (2) และ (3) ยังต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินด้วย แต่ในขณะนี้ยังไม่กฎหมายดังกล่าวจึงไม่อาจมีการคัดเลือกหรือสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้

 

และ 5 การที่เลขาธิการวุฒิสภาและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ดำเนินการสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นการกระทำที่ยังไม่เกิดหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญและคำสั่งคสช.ฉบับที่ 23/2560 จึงถือว่าเป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสององค์กรดังกล่าวที่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา210

 

ในหนังสือฉบับดังกล่าวยังอ้างถึงความเห็นของกรรมการตรวจเงินแผ่นดินบางคนในที่ประชุมคตง.วันที่ 4 พ.ค.ที่เห็นว่า การที่ประกาศคสช.ฉบับที่ 31/2557 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ข้อ 8 ให้กรรมการตรวจเงินแผ่นดินชุดนี้สามารถเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดินอีกวาระหนึ่ง เป็นการเปิดการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินก่อนวันที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินชุดนี้จะครบวาระในวันที่ 25 กันยายน 2560 อาจเป็นการบังคับให้กรรมการบางรายต้องลาออกมาเพื่อสมัครรับการสรรหา อันจะเป็นผลทำให้การทำงานของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินชุดนี้ต้องหยุดลง เพราะมีจำนวนไม่ถึง 5 คน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตรวจเงินแผ่นดินโดยรวมด้วย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมี 5 คน จากองค์ประกอบทั้งหมด 7 คน เนื่องจากลาออกไป 2คน คือ นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ส่วนที่เหลืออยู่ 5 คน ประกอบด้วย นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานฯ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินทร์ นางอุไร ร่มโพธิหยก และนางจิรพร มีหลีสวัสดิ์ โดยทั้งหมดมาจากการสรรหาตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 71/2557 ลงวันที่ 27 มิ.ย.57 ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่งได้ 3 โดยจะพ้นวาระในวันที่ 26 กันยายน 2560 และสามารถสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้อีกครั้งหนึ่งแต่หากได้รับการสรรหาจะดำรงตำแหน่งได้อีกไม่เกิน 3 ปี ตามข้อ 8 ของประกาศฉบับดังกล่าว