ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมี่ยมครึ่งปีหลังส่งสัญญาณบวก "ซัมซุง" เปิดเกมขนทัพทีวีรุ่นใหม่ "ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี" รุกตลาดย้ำแชมป์ผู้นำ ด้าน "โตชิบา" ไม่น้อยหน้า จ่อส่งไลน์อัพใหม่กลุ่มทำความเย็น พร้อมอัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อรากหญ้ารับ
นางวรรณา สวัสดิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันหลายฝ่ายจะมองว่าตลาดทีวีเมืองไทยจะมีการเติบโตเต็มที่แล้วแต่ทว่าภาพตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกทั้งนี้เป็นผลมาจากเรื่องของนวัตกรรม ฟังก์ชั่น ที่แต่ละแบรนด์พยายามผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆเข้าไปในทีวีรุ่นใหม่หรือที่เรียกว่าสมาร์ททีวี เพื่อรองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นตลาดให้เกิดการซื้อทีวีเครื่องใหม่ที่มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น กอปรกับสังคมสมัยใหม่ผู้คนนิยมนิยมซื้อคอนโดเข้ามาเพิ่มเติมจากที่มีบ้านอยู่แล้ว และจะมีการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นเข้ามาใช้งาน ส่งผลให้ตลาดเครื่องใช้ภายในบ้านรวมถึงตลาดทีวีมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
"เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อทีวีในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปจากอดีตกล่าวคือนิยมเลือกซื้อที่นวัตกรรม ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในแต่ละรูปแบบเป็นหลัก แตกต่างจากในอดีตที่การเลือกซื้อทีวีนั้นเลือกซื้อเพื่อให้สมาชิกในบ้านได้รับชมเพื่อความสุขภายในบ้าน"
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของตลาดทีวีล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว "ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี" ใน 3 ซี่รี่ย์ ได้แก่ ซี่รี่ย์ 7 แบบจอแบน ,ซี่รี่ย์ 8 จอโค้ง และซี่รีย์9 รุ่นท็อป แบบจอแบน ขนาดตั้งแต่ 55-88 นิ้ว โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 1- 6.5 แสนบาท เพื่อเข้ามารุกตลาดทีวีพรีเมี่ยม ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และรุ่นท็อปจะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ชื่นชอบการเข้าชมยูทูป และอินเตอร์เน็ต โดยมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายในกลุ่มทีวีพรีเมี่ยมของซัมซุงเป็น 80% ของสัดส่วนยอดขายทีวีทั้งหมด จากปัจจุบันที่บริษัทมีสีดส่วนยอดขายมาตากกลุ่มทีวีพรีเมี่ยม 70%
"ความท้าทายในการทำตลาดทีวีปีนี้คือ ทำอย่างไรให้ทักบ้านที่มีทีวีอยู่แล้ว อยากเปลี่ยนทีวีเครื่องใหม่ นั่นคือโจทย์สำคัญที่เรานำมาเป็นส่วนประกอบในการพัฒนาซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี ที่ตอบโทจย์คนรุ่นใหม่ด้วยสายล่องหนที่ไม่พันกัน มีคอนเทนต์ให้รับชมหลากหลายทั้งบันเทิง วาไรตี้ เกม หนัง เป็นต้น
“ความท้าทายในการทำตลาดทีวีปีนี้คือ ทำอย่างไรให้ทุกบ้านที่มีทีวีอยู่แล้ว อยากเปลี่ยนทีวีเครื่องใหม่ นั่นคือโจทย์สำคัญที่เรานำมาเป็นส่วนประกอบในการพัฒนาซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวีที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยสายล่องหนที่ไม่พันกัน มีคอนเทนต์ให้รับชมหลากหลายทั้งบันเทิงวาไรตี เกม หนัง เป็นต้น
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าภาพรวมการเติบโตในตลาดทีวีเมืองไทยปีนี้จะมีการเติบโตเชิงปริมาณ 1%(ยูนิต) หรือคิดเป็นจำนวน 2-3 ล้านเครื่อง และเติบโตเชิงมูลค่า 3% (แวลู่) หรือคิดเป็นจำนวน 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนสมาร์ททีวี 25% โดยประเมินว่าจากเทรนด์ของสมาร์ททีวีที่กำลังมาแรงในเมืองไทยจะส่งผลให้ตลาดสมาร์ททีวีมีการเติบโตสูงขึ้น และมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 30% ในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ โดยซัมซุงถือเป็นผู้นำตลาดทีวีเมืองด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเกือบ 50%
ด้านนายโตชิโระ อิชิวาตาริ ประธาน บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชั่น (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจตลาดไทยตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันดีขึ้น จากแคมเปญช้อปช่วยชาติ และเทศกาลปีใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจโลก และของไทยจะดีขึ้น หรือทั้งปีตลาดเอชเอน่าจะโต 3-5% โดยบริษัทเตรียมพร้อมและตั้งใจรุกตลาดใหม่ๆมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ โดยปีนี้ในเดือนมิ.ยจะเน้นขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้านคือ เมียนมา และกัมพูชา ต่อจากลาวที่เริ่มไปก่อนหน้า มั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะกลับมาเติบโตได้ 3-5% หลัง2-3ปีที่ผ่านมา รายได้ทรงตัว
ขณะที่นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงหน้าฝนนี้ จะมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1.เครื่องซักผ้า คอลเลกชั่นใหม่ที่เปลี่ยนทั้ง Major Change ทั้งบอดี้และดีไซน์ ที่จะมาแทนรุ่นเก่า รวม4รุ่นใหม่ ไซส์ใหญ่ เน้นเจาะตลาดพรีเมี่ยม สำหรับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการเครื่องซักผ้าแบบอินเวอร์เตอร์ เน้นความสะอาด ถนอมผ้า และประหยัดไฟ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิ.ยนี้เป็นต้นไป 2.ตู้แช่2อิน1 เป็นสินค้าใหม่นำเข้าสู่ตลาด และเป็นไลน์อัพใหม่ที่มีฟังก์ชั่นแช่แข็งและแช่เย็น ปรับเป็นตู้แช่และตู้เย็นได้ในเครื่องเดียว มี 2 ขนาด คือ 5 และ 7 คิว ราคาเริ่มต้น 8,890 บาทขึ้นไป เจาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ร้านอาหาร ที่ต้องการซื้อของสดแช่ และแม่ลูกอ่อนที่ต้องการแช่นมให้ลูก หลังพบตลาดนี้โตมากใน 1-2 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าปีแรกจะมีส่วนแบ่งได้ 3-5% ของตลาดตู้แช่ที่มีมูลค่าราง 5% ของตาดตู้เย็นรวม และ 3.ตู้เย็น 2 ประตูโฉมใหม่ ไซส์กลาง เพิ่มความหลากหลายตามฤดูกาล และใน 1-2 เดือนหน้า ยังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจว่าถึงสิ้นปีขะมีส่วนแบ่งตลาดเป็น 14% เป็นผู้นำตลาดอีกครั้งหลังปีก่อนมีแชร์ 12% ล่าสุดพร้อมฉลองผลิตตู้เย็น 2ประตู ครบ 10 ล้านเครื่อง และในปีหน้าผลิตเครื่องซักผ้าครบ 20 ล้านเครื่อง
ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงครึ่งปีหลังนี้ มองส่าภาพรวมกำลังซื้อในต่างจังหวัดจะยังคงชะลอตัวอยุ่ เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยมากนัก จึงจำเป็นต้องมีการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ควบคู่กับการนำเสนอความเป็นสินค้าคุณภาพในการทำตลาด พร้อมกับมีการเน้นเปิดจัวสินค้าในตบาดพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560