ป.ป.ช.ชี้มูลเจ้าหน้าที่สรรพากรปากน้ำร่วมกันโกงแวตพันล้าน

22 มิ.ย. 2560 | 09:08 น.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ และบุคคลที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ  ร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ จำนวน 1,113,034,083 บาท

S__18137137 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลเจ้าหน้าที่ของรัฐโกงแวตพันล้าน ประกอบด้วย (1) นายพายุ  สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 (2) นายป้อมเพชร  วิทยารักษ์ (3) นางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง (4) นางสาวอารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 และบุคคลที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วย (1) นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์  (2) นายวีรยุทธ แซ่หลก (3) นางสาวสายธาร แซ่หลก (4) นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ (5) นายประสิทธิ อัญญโชติ กรณีร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ จำนวน 1,113,034,083 บาท

จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ และบุคคลที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้มีการแบ่งงานกันทำเป็นขบวนการ โดยร่วมกันจัดหาราษฎรเพื่อไปขอจัดตั้งบริษัทส่งออก แต่ไม่มีการประกอบการจริง และดำเนินการออกใบกำกับภาษีเท็จ ทั้งที่ไม่มีการส่งออกสินค้าจริง แล้วนำหลักฐานใบกำกับภาษีปลอมไปยื่นขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกับเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 ที่ถูกกล่าวหาข้างต้น โดยในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 ดังกล่าว ไม่ดำเนินการตรวจสอบตามระเบียบหลักเกณฑ์วิธีการที่กรมสรรพกรกำหนด เป็นเหตุให้มีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ จำนวน 1,113,034,083 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว จึงมีมติว่านายพายุ สุขสดเขียว นายป้อมเพชร วิทยารักษ์   นางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง และนางสาวอารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย และอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป

สำหรับนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ นายวีรยุทธ แซ่หลก นางสาวสายธาร แซ่หลก นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ และนายประสิทธิ อัญญโชติ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยัง อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป

นอกจากนี้ จากการไต่สวนยังพบว่ามีบุคคลที่ได้รับเงินภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ รวม 23 ราย แต่ไม่พบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคล    ทั้ง 23 ราย และนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ได้รับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งอาจมีมูลความผิดฐานฟอกเงิน      จึงมีมติให้ส่งไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน รวมทั้งถือได้ว่าบุคคลดังกล่าว เป็นผู้มีเงินได้ จึงให้ส่งกรมสรรพกร เพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับด้วย