กนอ.เดินหน้าแผนป้องกันน้ำท่วมรับฤดูฝน

05 ก.ค. 2560 | 09:37 น.
กนอ. เร่งทุกนิคมอุตสาหกรรม ปฏิบัติตามแผนป้องกันน้ำท่วมรับฤดูฝน พร้อมรายงานสถานการณ์ผ่านศูนย์วอร์รูมเฝ้าระวัง ตลอด 24 ชม. เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์ เร่งสูบระบายน้ำกรณีฝนตกต่อเนื่อง เผยภาพรวมนิคมฯ ทั่วประเทศยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร้อยละ 60 ของพื้นที่

โดยกนอ. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนโดยรวม ในแต่ละพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 เดือนตั้งแต่กรกฎาคมจนถึง กันยายนที่จะถึงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง จะมีปริมาณฝนตกหนักเพิ่มขึ้นกว่าค่าปกติ ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ หรือ ประมาณ 650 มิลลิเมตร (จากค่าเฉลี่ย 600 มิลลิเมตร) ส่วนภาคตะวันออก จะมีปริมาณฝนรวมใกล้เคียงค่าปกติ หรือประมาณ 900 มิลลิเมตร โดยภาพรวมตามที่คาดไว้ ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติที่สามารถบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ นิคมฯอุตสาหกรรมได้ และยังไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด _MG_0123

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ให้กับทุกนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรม สหรัตนนคร ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนที่อาจจะมีปริมาณฝนตกหนักบางแห่งในพื้นทีอย่างต่อเนื่อง โดย กนอ.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการ กนอ. ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานกับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร update สถานการณ์ และประสานความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

รวมถึงกำกับให้นิคมฯทุกแห่งปฏิบัติตามแผนป้องกันน้ำท่วม ได้แก่ สำรวจและเสริมความมั่นคงแข็งแรงของคันดินป้องกันน้ำท่วม เตรียมความพร้อมระบบป้องกันน้ำท่วม เครื่องสูบน้ำระบายน้ำและเครื่องจักรอุปกรณ์ ขุดลอกและพร่องน้ำในลำรางระบายน้ำและบ่อเก็บกักน้ำฝนภายในนิคม โดยระวังไม่ให้กระทบต่อชุมชนใกล้เคียง จัดหาเครื่องสูบน้ำสำรอง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเวรตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบระดับน้ำของจุดเฝ้าระวังโดยรอบพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด ติดตามข้อมูล ข่าวสาร และพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง บูรณการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมชลประทาน ทหาร และท้องถิ่น เพื่อรองรับสถานการณ์ ฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุอุทกภัยของนิคมฯ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เป็นประจำทุกปี

อีกทั้ง กนอ.มีอุปกรณ์สำรองฉุกเฉินโดยจัดเตรียมคันกั้นน้ำติดตั้งเร็วจำนวน 2,188 ชุด สูง 1.21 เมตร มีความยาว 20 กิโลเมตร ซึ่งสามารถติดตั้งได้รวดเร็วในเกือบทุกสภาพพื้นที่ มีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน ดังนั้น กนอ. จึงมั่นใจว่ามาตรการทั้งหมดข้างต้นจะสามารถรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมฯ ทุกแห่งได้