ครึ่งปีแรกต่างชาติลงทุนไทยแล้ว 136 ราย

06 ก.ค. 2560 | 04:28 น.
ครึ่งปีแรก ต่างชาติลงทุนไทยแล้ว 136 ราย มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 3,743 ล้านบาท จ้างงานคนไทยเกือบ 3,078 คน

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เมื่อวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2560 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 17 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 331 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน คนไทย 439 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ และองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน

[caption id="attachment_175316" align="aligncenter" width="458"] นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า[/caption]

สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่

1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 6 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 199 ล้านบาท ได้แก่ บริการบริการให้กู้ยืมเงิน บริการบริหารจัดการด้านการดำเนินพิธีการศุลกากรและติดต่อประสานงานกับผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า บริการให้คำปรึกษาแนะนำและบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลและด้านความปลอดภัย บริการทดสอบความน่าเชื่อถือของชิ้นส่วนยานพาหนะที่ทำจากยาง บริการทางบัญชี โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์

2. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 7 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 120 ล้านบาท ได้แก่ บริการให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ทุกประเภทและรถยนต์ใช้แล้ว บริการตรวจรับรองคุณภาพรถแทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบจำลองสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อมเพื่อใช้ในการทดสอบคุณภาพสินค้าบริการซ่อมแซม บำรุงรักษาและปรับปรุงเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริการเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริการรับจ้างผลิตภาพยนตร์แอนิเมชัน โดยการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยเทคนิคคอมพิวเตอร์ บริการรับจ้างผลิตขดลวดทำความร้อน  โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน

3. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 3 ล้านบาท ได้แก่ บริการเป็นที่ปรึกษาตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของระบบ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศฝรั่งเศส

4. ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 9 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกแม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนโลหะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การค้าปลีกอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมการผลิต การค้าส่งสารเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรประเภทยากำจัดวัชพืช โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี และจีน

การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับกระบวนการทำงานการสร้างภาพยนต์เคลื่อนไหวเสมือนจริง  การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบ ควบคุมและดูแลรักษาเครื่องจักรที่ใช้ในการทดสอบความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ (Liability Test) ประเภทชิ้นส่วนยานพาหนะที่ทำจากยาง วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการออกแบบรูปแบบขดลวดทำความร้อน (Heater) และวิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ออกแบบและตรวจสอบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งวิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบที่ใช้จำลองสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อมสำหรับทดสอบคุณภาพสินค้าประเภทรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Environmental testing system)

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน 2560 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 45ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 1,314 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 79 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง จำนวน 5 ราย คิดเป็นอัตราร้อยละ 23 ในขณะที่มีเงินลงทุนลดลง160 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32 เนื่องจากในเดือนพฤษภาคม 2560 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทในเครือ บริการให้กู้ยืมเงินโดยมีกรมธรรม์ประกันภัยเป็นประกัน บริการออกแบบทางวิศวกรรมจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ก่อสร้างและติดตั้งแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม เป็นต้น ประกอบกับในเดือนมิถุนายน ได้มีการถอด 19 ธุรกิจ ออกจากบัญชีสามท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เช่น ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจบริการเป็นสำนักงานผู้แทนของนิติบุคคลต่างประเทศในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าวไม่ต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจ

อนึ่ง ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2560 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 136 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,743 ล้านบาท ขณะที่ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2559 คนต่างด้าวได้รับอนุญาต จำนวน 179 ราย  และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,711 ล้านบาท ซึ่งในปี 2559 ทั้งปี (มกราคม - ธันวาคม) คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 352 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,443 ล้านบาท