แพทย์เตือนฤดูฝนเร่งปราบยุงลายกันไข้เลือดออกเสี่ยงถึงตาย

06 ก.ค. 2560 | 08:20 น.
แพทย์เตือนช่วงฤดูฝน การเพาะพันธุ์ของยุงลายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น  เสี่ยงต่อโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีภาวะโรคอ้วน เบาหวาน ความดัน  เสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต  ร.พ.พระรามเก้าชวนประชาชนร่วมรณรงค์ “วันไข้เลือดออกอาเซียน 2017”  ร่วมใจปราบยุงลายป้องกันโรคไข้เลือดออก ล่าสุดประเทศแถบอาเซียนพบเชื้อไวรัสเดงกี 4สายพันธุ์ ขณะที่ประเทศไทยพบได้ทุกสายพันธุ์ซึ่งมีมานานแล้ว แต่ไม่มีสายพันธุ์ใหม่

aat

 

พญ.ฉัฐฐิมา เสาวภาคย์ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้ หอบหืด ภูมิคุ้มกัน  โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่าอยากแนะนำให้ประชาชนและผู้ปกครองเน้นแก้ปัญหาเรื่องไข้เลือดออกตั้งแต่ต้นเหตุ คือ การดำเนินการไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในฐานพื้นที่ 6 ร. คือ โรงเรือน  โรงเรียน  โรงแรม  โรงงาน  โรงธรรมและโรงพยาบาล  ซึ่งโรงพยาบาลเองนับว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องทำให้เป็นโรงพยาบาลสะอาดปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย : Green and Clean Hospital  เพื่อปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และปลอดลูกน้ำยุงลาย เพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่ทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นสถานที่สาธารณะที่ประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

ช่วงที่ผ่านมาเป็น “วันไข้เลือดออกอาเซียน” (ASEAN Dengue Day) โดยในปีนี้ ปี 2560 เป็นปีแรกที่กลุ่มอาเซียนกำหนดการรณรงค์ คือ United Fight Against Dengue หรือ ประชารัฐร่วมใจปราบยุงลายป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งโรคไข้เลือดออกยังเป็นปัญหาสาธารณสุขในประเทศอาเซียน  จากข้อมูล พบว่า มีผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกว่าปีละ 200,000 ราย  ซึ่งจากผลสำรวจครึ่งปีแรกมีรายงานผู้ป่วยใน 7 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 69,213 ราย  และเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกไปแล้ว 57 ราย

ส่วนสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทย ปี 2560 พบว่าช่วงครึ่งปีแรก (ตั้งแต่เดือน ม.ค.–พ.ค. 2560 ) มีผู้ป่วยแล้ว 11,062 ราย  เสียชีวิต 21 ราย จากข้อมูลพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก คือผู้ใหญ่ 12 ราย เด็ก 9 ราย  แสดงว่าโรคไข้เลือดออกไม่ได้เป็นเฉพาะในเด็กเท่านั้น  ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้และอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้  โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น ภาวะอ้วน ที่เสียชีวิตในปีนี้ 5 ราย โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง  โดยคาดว่าตลอดปี 2560 ไทยจะพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกประมาณ 75,000 ถึง 80,000 ราย

you

ทั้งนี้ ในแถบประเทศอาเซียนสามารถพบเชื้อไวรัสเดงกีได้ 4 สายพันธุ์ ส่วนในประเทศไทยพบได้ทุกสายพันธุ์ ซึ่งมีมานานแล้ว และปัจจุบันยังไม่มีสายพันธุ์ใหม่ และในปี 2560 นี้ สายพันธุ์ที่พบมากในไทยคือสายพันธุ์ที่ 2 ส่วนอาการป่วยขึ้นอยู่กับว่าเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่  ซึ่งหากพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกอาการมักไม่รุนแรง อาจมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อติดเชื้อครั้งที่สองด้วยสายพันธุ์ที่ต่างไป  ซึ่งจะทำให้มีภาวะเลือดออกและช็อกได้

นอกจากนี้ เน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน ป้องกันไข้เลือดออกด้วยตนเองโดยการปฏิบัติ 5 ป. และ 1 ข. ได้แก่ ป.ปิด คือ ปิดภาชนะน้ำให้มิดชิด ป้องกันยุงลายลงไปวางไข่   ป.เปลี่ยน เปลี่ยนน้ำในแจกัน  ทุกๆ 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำที่จะกลายเป็นยุง  ป. ปล่อย ปล่อยปลาหางนกยูงให้กินลูกน้ำในภาชนะ   ป.ปรับ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ให้ปลอดโปร่ง โล่งสะอาดลมพัดผ่าน ไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย   ป.ปฏิบัติ ปฏิบัติจนเป็นนิสัย และ  1 ข. ขัดไข่ยุงลาย รวมถึงการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ไวรัสเดงกี 4 สายพันธุ์ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถป้องกันและห่างไกลจากภัยเงียบไข้เลือดออกได้