กนอ.เปิดนิคมฯสระแก้วรับเอสเอ็มอี ส.ค.นี้
กนอ. เผย นิคมฯสระแก้วเนื้อหอม นักลงทุนเอสเอ็มอี ทยอยเซ็นสัญญาเช่าเข้าใช้พื้นที่ต่อเนื่อง แบ่งโซนกว่า 100 ไร่ รองรับผู้ประกอบการ คาดเปิดพื้นที่ได้ส.ค. ปีนี้ เดินหน้าจัดหาผู้รับเหมาเข้าพัฒนาพื้นที่ระยะที่ 2 ประมาณ 526 ไร่ คาดก่อสร้างได้ ก.ย.นี้
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลจัดกิจกรรมเดินสายพบปะนักลงทุนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอความคืบหน้าการขับเคลื่อนการลงทุน และความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่จะใช้รองรับการขยายตัวตามแนวทางการดำเนินงานการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดสระแก้ว บนพื้นที่ 660 ไร่ ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
[caption id="attachment_180540" align="aligncenter" width="334"]
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)[/caption]
ดังนั้น กนอ.จึงเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่เฟสแรก 134 ไร่ รองรับความต้องการใช้พื้นที่ของนักลงทุนกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ในระยะแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบถนน ระบบประปา ระบบไฟฟ้า และอื่นๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจพื้นที่ประกอบกิจการได้ประมาณเดือน สิงหาคม นี้
“พื้นที่ จำนวน 134 ไร่ เป็นการจัดสรรพื้นที่ของโครงการนิคมฯสระแก้ว ในการก่อสร้างอาคารโรงงานมาตรฐานและ ลานประชารัฐ ตามแนวนโยบายประชารัฐ เพื่อใช้สำหรับรองรับผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) และพื้นที่สำหรับการลงทุนอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สินค้าเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรมพลาสติก เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์”
นายวีรพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารโรงงานมาตรฐาน และ ลานประชารัฐ กนอ.ได้ดำเนินการก่อสร้างเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่เข้าเช่าใช้ประกอบกิจการ จำนวน 5 ยูนิต ประกอบด้วย อาคารชั้นเดียว ขนาด 1,000 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต/หลัง อาคารแฝดชั้นเดียว จำนวน 2 ยูนิต/หลัง (จำนวน 2 หลัง ซึ่งแต่ละยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 500 ตารางเมตร) ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการใช้พื้นที่ได้ประมาณเดือนหน้าเป็นต้นไป
ส่วนการพัฒนาพื้นที่ นิคมฯสระแก้ว ในระยะที่ 2 ประมาณ 526 ไร่ กนอ.จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่ เพื่อรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ โดยใช้งบประมาณการลงทุนของรัฐบาล ประมาณ 700 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการการจัดหาบริษัทผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่ กนอ. กำหนด เข้าดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณเดือนกันยายน 2560 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าใช้พื้นที่ได้ครบทั้งหมดประมาณเดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป
จากความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่นิคมฯจังหวัดสระแก้ว มาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความชัดเจนที่เริ่ม เป็นรูปธรรม รวมทั้งจังหวัดสระแก้ว ยังเป็นแหล่งลงทุนที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวัตถุดิบ แรงงาน และโลจิสติกส์ รวมทั้งยังเป็นประตูเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา และยังเชื่อมโยงไปยังพื้นที่การลงทุนใหม่ในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นตัดสินใจทยอยเข้าลงทุนในพื้นที่ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการทำสัญญาเช่าแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจา ประมาณ 5 ราย พื้นที่ ประมาณ 45-50 ไร่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่ ในนิคมฯจังหวัดสระแก้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์หรับการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) นอกจากนี้ในส่วนของการใช้พื้นที่ กนอ.ยังได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการเช่าในรูปแบบ การเช่าพื้นที่มากกว่า 20 ไร่ ขึ้นไป และการเช่าพื้นที่น้อยกว่า 20 ไร่ โดยผู้เช่าจะได้รับยกเว้นค่าเช่า และค่าบำรุงรักษาหากทำสัญญาเช่าภายในระยะเวลาที่กำหนด
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลจัดกิจกรรมเดินสายพบปะนักลงทุนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอความคืบหน้าการขับเคลื่อนการลงทุน และความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่จะใช้รองรับการขยายตัวตามแนวทางการดำเนินงานการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดสระแก้ว บนพื้นที่ 660 ไร่ ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
[caption id="attachment_180540" align="aligncenter" width="334"]
ดังนั้น กนอ.จึงเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่เฟสแรก 134 ไร่ รองรับความต้องการใช้พื้นที่ของนักลงทุนกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ในระยะแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบถนน ระบบประปา ระบบไฟฟ้า และอื่นๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจพื้นที่ประกอบกิจการได้ประมาณเดือน สิงหาคม นี้
“พื้นที่ จำนวน 134 ไร่ เป็นการจัดสรรพื้นที่ของโครงการนิคมฯสระแก้ว ในการก่อสร้างอาคารโรงงานมาตรฐานและ ลานประชารัฐ ตามแนวนโยบายประชารัฐ เพื่อใช้สำหรับรองรับผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) และพื้นที่สำหรับการลงทุนอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สินค้าเกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรมพลาสติก เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์”
นายวีรพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารโรงงานมาตรฐาน และ ลานประชารัฐ กนอ.ได้ดำเนินการก่อสร้างเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่เข้าเช่าใช้ประกอบกิจการ จำนวน 5 ยูนิต ประกอบด้วย อาคารชั้นเดียว ขนาด 1,000 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต/หลัง อาคารแฝดชั้นเดียว จำนวน 2 ยูนิต/หลัง (จำนวน 2 หลัง ซึ่งแต่ละยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 500 ตารางเมตร) ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการใช้พื้นที่ได้ประมาณเดือนหน้าเป็นต้นไป
ส่วนการพัฒนาพื้นที่ นิคมฯสระแก้ว ในระยะที่ 2 ประมาณ 526 ไร่ กนอ.จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่ เพื่อรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ โดยใช้งบประมาณการลงทุนของรัฐบาล ประมาณ 700 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการการจัดหาบริษัทผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่ กนอ. กำหนด เข้าดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณเดือนกันยายน 2560 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าใช้พื้นที่ได้ครบทั้งหมดประมาณเดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป
จากความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่นิคมฯจังหวัดสระแก้ว มาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความชัดเจนที่เริ่ม เป็นรูปธรรม รวมทั้งจังหวัดสระแก้ว ยังเป็นแหล่งลงทุนที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวัตถุดิบ แรงงาน และโลจิสติกส์ รวมทั้งยังเป็นประตูเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา และยังเชื่อมโยงไปยังพื้นที่การลงทุนใหม่ในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นตัดสินใจทยอยเข้าลงทุนในพื้นที่ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการทำสัญญาเช่าแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจา ประมาณ 5 ราย พื้นที่ ประมาณ 45-50 ไร่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่ ในนิคมฯจังหวัดสระแก้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์หรับการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) นอกจากนี้ในส่วนของการใช้พื้นที่ กนอ.ยังได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการเช่าในรูปแบบ การเช่าพื้นที่มากกว่า 20 ไร่ ขึ้นไป และการเช่าพื้นที่น้อยกว่า 20 ไร่ โดยผู้เช่าจะได้รับยกเว้นค่าเช่า และค่าบำรุงรักษาหากทำสัญญาเช่าภายในระยะเวลาที่กำหนด