บล.บัวหลวง ลุย The stock master ปี 6 ชูแนวคิด "สติมี สตางค์มา"
บล.บัวหลวง จุดกระแส มีสติทางการเงิน เดินหน้าโครงการ เดอะ สต๊อก มาสเตอร์ ๒๕๖๐ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ครั้งนี้มาด้วยแนวคิด "สติมี สตางค์มา" มุ่งเน้นให้ความรู้เรื่องการเงินและการออมแก่นักลงทุนและบุคคลทั่วไป ผ่านการเรียนรู้ในช่องทางออนไลน์ หวังปลูกฝัง 6 สติสำคัญทางการเงิน ช่วยสร้าง “ยันต์กันจน” ในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างยั่งยืน พร้อมแบ่งปันเพื่อสังคมนำรายได้ทั้งหมดของโครงการบริจาค "มูลนิธิพระดาบส"
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ เดอะ สต๊อก มาสเตอร์ ๒๕๖๐ ภายใต้คอนเซ็ปท์ "สติมี สตางค์มา" หลังจากได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในปีที่ 6 นี้เน้นที่การสร้างสติทางการเงินในหลากหลายมิติ เพื่อให้กลายเป็นยันต์กันจนกับนักลงทุนและบุคคลทั่วไป สำหรับความพิเศษของปีนี้ เน้นการเรียนรู้การลงทุนแบบง่ายๆ แต่ทำได้จริงสำหรับผู้ต้องการเริ่มต้นการออมและลงทุนแล้วยังจะได้ทำความดีร่วมกันโดยรายได้ทั้งหมดของการจัดโครงการจะถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิพระดาบส ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่มุ่งเน้นให้ความรู้และฝึกอาชีพให้กับผู้ด้อยโอกาสให้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างพอเพียง
"การไม่มีความรู้การเงินขั้นพื้นฐานที่ดีพอ สะท้อนให้เห็นการมีภาระหนี้เกินตัวของคนรุ่นใหม่ และการวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คนในวัยทำงานจำนวนมากอาจไม่มีความพร้อมในการเกษียณ และบางคนตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ของกลุ่มมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบต่างๆ เพราะหวังรวยทางลัด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ หลักทรัพย์บัวหลวงจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างทักษะและความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐาน (Financial Literacy) เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง และมีการวางแผนที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปรียบเสมือนเป็นยันต์กันจนให้กับครอบครัวและคนทั่วไป"
[caption id="attachment_188196" align="aligncenter" width="335"]
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)[/caption]
สำหรับแนวคิดของยันต์กันจนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่และส่วนประกอบในแต่ละกลุ่มคือกลุ่มรายได้ ซึ่งเราควรมี สติหา คือ การรับรู้รายได้จากการทำงาน เงินเดือน โบนัส งานพิเศษ เพียงพอหรือไม่ และสติมี คือ การมีรายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่า ปันผล ดอกเบี้ยรับ กลุ่มรายจ่าย ซึ่งเราควรมี สติจ่าย คือ การแบ่งส่วนของการจ่าย เพื่อความสุขของตนเอง เช่น อยากไปเที่ยว อยากมีมือถือใหม่ และสติใช้ คือ จะต้องรู้ว่า เงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่ากิน กลุ่มเก็บออม ซึ่งเราควรมี สติเก็บ คือ การเก็บสำรองเงินบางส่วน เพื่อใช้ในยามคับขัน เช่น เจ็บป่วย ตกงาน และสติออม คือ การออมเงินบางส่วน เพื่อเป้าหมายทางอนาคต โดยจะต้องทำให้เกิดดอกผล เพื่อให้เพียงพอกับการใช้จ่ายในอนาคตที่ต้องการ เมื่อคุณมีสติในทั้ง 3 กลุ่มใหญ่ นี้แล้วก็จะมี “สตางค์มา” นั่นก็คือ ความมั่งมี และการมีเงินเพียงพอที่พร้อมจะรองรับแผนต่างๆในชีวิตอย่างมีอิสระด้วย
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รู้จักผลิตภัณฑ์ต่างๆทางการเงิน เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์หลักทรัพย์ รู้จักเครื่องมือที่จะมาช่วยให้ การลงทุนเป็นเรื่องเข้าถึงง่าย รวมถึงวิธีการสร้างพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของชีวิต จากทีมกูรูของหลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสะดวกกับรูปแบบชีวิตของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ย้อนหลังได้เมื่อต้องการ พร้อมสร้างประสบการณ์ลงทุนจริงในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนิยาม “รู้จริงกับสนามจริง” ขณะเดียวกันผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับหนังสือเสียง “สตาร์ทเครื่องเรื่องลงทุน” มูลค่า 200 บาท และพิเศษสำหรับ 500 ท่านแรกสามารถรับบัตรเข้าร่วม BLStalk ตอน “สติ.มี สตางค์.มา” มูลค่า 600 บาทฟรีทันที
สำหรับไฮไลท์ของการสร้าง “ยันต์กันจน” ด้วยตนเอง จะเริ่มต้นด้วยงานสัมมนา BLStalk @Bangkok ตอน “สติ.มี สตางค์.มา” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โดยมีแขกรับเชิญสำคัญอย่าง คุณเคน โสรัตน์ วณิชวรากิจ นักลงทุนเน้นคุณค่า หรือ VI (Value Investor) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยจะมาเปิดเผยหลักการลงทุนระยะยาวที่มีการนำธรรมะเข้ามาช่วยในการสร้างวิธีคิดการลงทุนและพบไฮไลท์ปิดท้ายโครงการ ด้วยการสัมผัสประสบการณ์สร้างพอร์ตหมื่นล้าน แบบ Exclusive กับผู้จัดการกองทุนระดับ แนวหน้าของประเทศอย่างนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง และนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทาลิส
โดยทั้งหมดของการเรียนรู้ตลอดระยะเวลาของโครงการ เดอะ สต๊อก มาสเตอร์ ๒๕๖๐ จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถสร้างยันต์กันจนได้ในรูปแบบเฉพาะตัว นั่นก็คือ การวางแผนการเงินและการออมของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถสมัครผ่านทาง www.bualuang.co.th/thestockmaster โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-25 สิงหาคม 2560 มีค่าเข้าร่วมโครงการจำนวน 2,000 บาท (รับจำนวนจำกัด) ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิพระดาบส และยังสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่www.facebook.com/thestockmaster และ www.facebook.com/bualuangsec หรือสอบถามที่ BLS Customer Serviceโทร 02-618-1111
"การไม่มีความรู้การเงินขั้นพื้นฐานที่ดีพอ สะท้อนให้เห็นการมีภาระหนี้เกินตัวของคนรุ่นใหม่ และการวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คนในวัยทำงานจำนวนมากอาจไม่มีความพร้อมในการเกษียณ และบางคนตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ของกลุ่มมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบต่างๆ เพราะหวังรวยทางลัด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ หลักทรัพย์บัวหลวงจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างทักษะและความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐาน (Financial Literacy) เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง และมีการวางแผนที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เปรียบเสมือนเป็นยันต์กันจนให้กับครอบครัวและคนทั่วไป"
[caption id="attachment_188196" align="aligncenter" width="335"]
สำหรับแนวคิดของยันต์กันจนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่และส่วนประกอบในแต่ละกลุ่มคือกลุ่มรายได้ ซึ่งเราควรมี สติหา คือ การรับรู้รายได้จากการทำงาน เงินเดือน โบนัส งานพิเศษ เพียงพอหรือไม่ และสติมี คือ การมีรายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่า ปันผล ดอกเบี้ยรับ กลุ่มรายจ่าย ซึ่งเราควรมี สติจ่าย คือ การแบ่งส่วนของการจ่าย เพื่อความสุขของตนเอง เช่น อยากไปเที่ยว อยากมีมือถือใหม่ และสติใช้ คือ จะต้องรู้ว่า เงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่ากิน กลุ่มเก็บออม ซึ่งเราควรมี สติเก็บ คือ การเก็บสำรองเงินบางส่วน เพื่อใช้ในยามคับขัน เช่น เจ็บป่วย ตกงาน และสติออม คือ การออมเงินบางส่วน เพื่อเป้าหมายทางอนาคต โดยจะต้องทำให้เกิดดอกผล เพื่อให้เพียงพอกับการใช้จ่ายในอนาคตที่ต้องการ เมื่อคุณมีสติในทั้ง 3 กลุ่มใหญ่ นี้แล้วก็จะมี “สตางค์มา” นั่นก็คือ ความมั่งมี และการมีเงินเพียงพอที่พร้อมจะรองรับแผนต่างๆในชีวิตอย่างมีอิสระด้วย
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รู้จักผลิตภัณฑ์ต่างๆทางการเงิน เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์หลักทรัพย์ รู้จักเครื่องมือที่จะมาช่วยให้ การลงทุนเป็นเรื่องเข้าถึงง่าย รวมถึงวิธีการสร้างพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของชีวิต จากทีมกูรูของหลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสะดวกกับรูปแบบชีวิตของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ย้อนหลังได้เมื่อต้องการ พร้อมสร้างประสบการณ์ลงทุนจริงในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนิยาม “รู้จริงกับสนามจริง” ขณะเดียวกันผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับหนังสือเสียง “สตาร์ทเครื่องเรื่องลงทุน” มูลค่า 200 บาท และพิเศษสำหรับ 500 ท่านแรกสามารถรับบัตรเข้าร่วม BLStalk ตอน “สติ.มี สตางค์.มา” มูลค่า 600 บาทฟรีทันที
สำหรับไฮไลท์ของการสร้าง “ยันต์กันจน” ด้วยตนเอง จะเริ่มต้นด้วยงานสัมมนา BLStalk @Bangkok ตอน “สติ.มี สตางค์.มา” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โดยมีแขกรับเชิญสำคัญอย่าง คุณเคน โสรัตน์ วณิชวรากิจ นักลงทุนเน้นคุณค่า หรือ VI (Value Investor) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยจะมาเปิดเผยหลักการลงทุนระยะยาวที่มีการนำธรรมะเข้ามาช่วยในการสร้างวิธีคิดการลงทุนและพบไฮไลท์ปิดท้ายโครงการ ด้วยการสัมผัสประสบการณ์สร้างพอร์ตหมื่นล้าน แบบ Exclusive กับผู้จัดการกองทุนระดับ แนวหน้าของประเทศอย่างนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง และนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทาลิส
โดยทั้งหมดของการเรียนรู้ตลอดระยะเวลาของโครงการ เดอะ สต๊อก มาสเตอร์ ๒๕๖๐ จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถสร้างยันต์กันจนได้ในรูปแบบเฉพาะตัว นั่นก็คือ การวางแผนการเงินและการออมของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถสมัครผ่านทาง www.bualuang.co.th/thestockmaster โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-25 สิงหาคม 2560 มีค่าเข้าร่วมโครงการจำนวน 2,000 บาท (รับจำนวนจำกัด) ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิพระดาบส และยังสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่www.facebook.com/thestockmaster และ www.facebook.com/bualuangsec หรือสอบถามที่ BLS Customer Serviceโทร 02-618-1111