ปลดล็อกแหล่งเงินทุน สมาพันธ์SMEs ปั้น 20 รายเข้าถึงสินเชื่อ100 ล.

12 ส.ค. 2560 | 03:34 น.
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเตรียมเปิดคอร์สอบรมให้ความรู้เอสเอ็มอีด้านการเงิน เหตุเข้าไม่ถึงสินเชื่อเพราะไม่มีการบริหารจัดการการเงินเป็นระบบ ตั้งเป้า 20 รายเข้าถึงสินเชื่อได้ 100 ล้านบาท พร้อมเผยยอดคำขอกองทุนตามแนวประชารัฐล้นกว่า 2 พันล้านบาท หลังได้งบมาเพียง 220 ล้านบาท

นายศักดิ์ชัย วิจัยธรรมฤทธิ์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสมาพันธ์ฯอยู่ระหว่างดำเนินงานเพื่อเปิดอบรมหลักสูตรการให้ความรู้ทางด้านการเงิน เริ่มต้นตั้งแต่การบริหารจัดการเงินเบื้องต้น,การทำรายการเดินบัญชีที่แจ้งจำนวนเงิน ข้อมูลรายการฝาก-ถอน (Statement),การวิเคราะห์โครงการ และการบริหารสภาพคล่อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็สอี ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบปัญหาการเข้าไม่ถึงระบบของสถาบันการเงิน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องหลักฐานทางการเงินตามหลักเกณฑ์ที่สถาบันการเงินต้องการ เพราะเอสเอ็มอีจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางด้านการเงินให้เป็นระบบ

[caption id="attachment_191926" align="aligncenter" width="377"] ศักดิ์ชัย วิจัยธรรมฤทธิ์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ศักดิ์ชัย วิจัยธรรมฤทธิ์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย[/caption]

ทั้งนี้เมื่อกระบวนการอบรมทางด้านการเงินแล้วเสร็จ ก็จะมีสถาบันการเงินที่สมาพันธ์ประสานความร่วมมือเอาไว้ เข้ามาจับคู่กับผู้ประกอบการที่ตรงตามหลักเกณฑ์ของแต่ละสถาบันการเงินเพื่อดำเนินการปล่อยสินเชื่อ โดยเบื้องต้นมี 3 สถาบันการเงินที่ให้การตอบรับแล้ว ได้แก่ 1.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, 2.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว. (SME Development Bank) ขณะนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ในขั้นตอนการเจรจาประสานงาน

สำหรับเป้าหมายที่สมาพันธ์วางเอาไว้ก็คือ การมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผ่านการอบรม และพร้อมเข้าสู่ระบบของสถาบันการเงินจำนวน 20 ราย จากจำนวนผู้เข้าอบรม 30 ราย ที่จะเปิดรับสมัคร โดยมียอดสินเชื่อที่ได้รับอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละ 5 ล้านบาท โดยอาจารย์ผู้อบรมจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีดีกรีปริญญาโทจากสถาบันการศึกษาจากทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการอบรมได้ภายในเดือนกันยายนนี้

นอกจากนี้ สมาพันธ์ยังจะเพิ่มเติมความรู้ทางด้านการทำตลาด (Marketing) รวมถึงการสร้างแบรนด์ และการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ประกอบการด้วย เนื่องจากมองว่า ปัญหาที่ผ่านมาของเอสเอ็มอีก็คือการมีผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ไม่สามารถหาช่องทางในการจำหน่ายที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องการแข่งขันทางด้านราคา ดังนั้นสมาพันธ์จึงต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สามารถขายได้ในกลุ่มผู้บริโภคระดับสูง

นายศักดิ์ชัย ยังได้กล่าวต่ออีกในฐานะคณะกรรมการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย ว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นคำร้องขอเข้ารับการช่วยเหลือประมาณ 200 ราย วงเงินที่ขอรวมทั้งหมด 2 พันล้านบาท ขณะที่วงเงินที่ได้รับการจัดสรรมาอยู่ที่ประมาณ 220 ล้านบาท ดังนั้นจึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด โดยจะต้องมีการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างรอบคอบถึงความเหมาะสม ซึ่งล่าสุดมีผู้ประกอบการได้รับวงเงินสินเชื่อไปแล้ว 8 ราย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 แสน-5 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือผ่านกองทุนได้อีกประมาณ 110 ราย โดยตั้งเป้าหมายจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้

“การพิจารณาในการให้สินเชื่อจะมีการดำเนินการเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ โดยมี ธพว. ตรวจสอบก่อนในเบื้องต้น หลังจากนั้นคณะกรรมการจึงมาช่วยกันพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง ก่อนปล่อยสินเชื่อ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560