ถกเหมืองทองไม่คืบ รัฐยื้อ‘อัคราฯ’ยาว

17 ส.ค. 2560 | 04:32 น.
กพร.เผยผลการเจรจา เปิดเหมืองทองคำ ของอัคราฯ ยังหาทางออกไม่ได้ อาจต้องลากยาว รอความชัดเจนด้านผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่ยังไม่ชัดเจน

นายวิษณุ ทับเที่ยง รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการทำเหมืองแร่ทองคำและเงิน ในเหมืองแร่ชาตรี จังหวัดพิจิตร มีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด จากออสเตรเลีย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อหาทางออกการสั่งระงับการสำรวจและทำเหมืองแร่ การต่อประทานบัตร รวมถึงการต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรมหรือโรงถลุงแร่ ไม่เช่นนั้นจะทำเรื่องไปยังอนุญาโตตุลาการต่อคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าว และเป็นการกระทำที่ขัดต่อ ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement:TAFTA) นั้น

[caption id="attachment_192832" align="aligncenter" width="503"] นายวิษณุ ทับเที่ยง นายวิษณุ ทับเที่ยง[/caption]

โดยที่ผ่านมากพร.ได้มีการหารือกับทางบริษัท อัคราฯอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 ตามกรอบ TAFTA ที่ให้ระยะเวลา 3 เดือน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งหากเลยเงื่อนระยะเวลาการเจรจาแล้ว ก็สามารถขอยืดระยะเวลาออกไปได้อีก หากเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม มองว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะเปิดให้มีการสำรวจและผลิตแร่ทองคำ เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมและยังขาดความมั่นใจด้านข้อมูล ว่าการทำเหมืองแร่ทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพหรือไม่ ซึ่งในจุดนี้ยังเป็นสิ่งที่ประชาชนยังมีความกังวลอยู่ แม้ว่าจะมีคณะกรรมการฯเข้ามาดูแลหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกว่า 2 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีการสรุปผลกระทบที่ชัดเจนออกมา

TP8-3226-A ดังนั้น การจะพิจารณาให้มีการออกอาชญาบัตรเพื่อทำการสำรวจแร่ และประทานบัตร เพื่อผลิตแร่ทองคํา จึงยังระงับไว้ก่อน แม้ว่าจะมีเอกชนกว่า 13 ราย ในจำนวน 100 แปลง พยายามที่จะยื่นขอรับใบอนุญาตต่างๆ ยังไม่สามารถทำได้ โดยรวมไปถึงกรณีของบริษัท อัคราฯด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560