ปลาทูทรงเครื่อง‘แม่มะลัย’ อัพเกรดแบรนด์โกอินเตอร์
ปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัยเดินหน้าทำตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ พร้อมเผยแผนเตรียมวางจำหน่ายวิลล่า มาร์เก็ต และท็อปในภาคอีสาน และญี่ปุ่น ก่อนขยายสู่กรุงเทพฯ เชื่อสร้างรายได้ 2-3 ล้านบาท แย้มแผนอนาคตทำเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
นายวิทวัส จันนาวัน เจ้าของ และผู้จัดการฝ่ายขาย ร้านปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ “แม่มะลัย” โดยใช้นวัตกรรมในการยืดอายุของผลิตภัณฑ์
[caption id="attachment_228694" align="aligncenter" width="503"]
วิทวัส จันนาวัน เจ้าของ และผู้จัดการฝ่ายขาย ร้านปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัย[/caption]
ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program :ITAP) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยผ่านเครื่องจักรที่มีการควบคุมความร้อนมากกว่า 200 องศา และมีการควบคุมความชื้นให้ตํ่ากว่า36% ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีอายุในการรับประทานได้ถึง1 ปี ตามกระบวนการทางวิทยา ศาสตร์ โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด
ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น ในระยะเริ่มต้นจะใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการนำผลิต ภัณฑ์ไปโพสต์จำหน่ายได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ช่องทางออฟไลน์จะวางจำหน่ายที่ร้านสุขสมบูรณ์ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ 11 สาขา รวมถึงร้านค้าในสนามบินจังหวัดอุดรธานี และร้านประชารัฐ ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศล่าสุดมีผู้ที่ทดลองนำเข้าไปทำตลาดที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ดี แผนการทำตลาดในระยะถัดไปจะดำเนินการนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่วิลล่า มาร์เก็ต (Villa Market) และร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต (Tops Supermarket) ในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นก็จะขยายตลาดมาสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตลาดในต่างประเทศกำลังทดลองทำตลาดอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยหากร้านค้าในญี่ปุ่นสนใจก็จะดำเนินการเรื่องการขอขึ้นทะเบียน อย. ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายอย่างเป็นรูปธรรม
“จากกลยุทธ์การทำตลาด และแผนที่จะดำเนินการในระยะต่อไป เชื่อว่าจะทำให้ปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัยสร้างรายได้ได้ประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อปีและจะเพิ่มมากขึ้นตามช่องทางในการทำตลาดที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้ตามขั้นตอน”
นายวิทวัส กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัยมี 3 รสชาติ ได้แก่ 1. รสดั้งเดิม 2.รสกระเทียม และ 3. รสกะเพรา โดยรสดั้งเดิมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงที่สุด ส่วนรสกระเทียมจะได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็ก และผู้สูงอายุ ขณะที่รสกะเพราจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพราะกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์และรสชาติความเป็นไทย
สำหรับจุดเด่นของผลิต ภัณฑ์อยู่ที่การไม่ใส่ผงชูรส และสารกันบูด อีกทั้งยังผลิตมาจากเนื้อปลาทูที่สด สะอาดตามธรรมชาติ ผสมผสานกับสูตรของคุณยายทำให้ได้ปลาทูทรงเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ยังยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โปรตีน และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ที่เรียกว่า โอเมก้า 3 (Omega 3) ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องแบรนด์ “แม่มะลัย” เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค และกำลังดำเนินการเรื่องการทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นออร์แกนิก เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนผสมของสมุนไพรด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องการทำให้เป็นรูปแบบ ของออร์แกนิก โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาติดต่อกับเกษตรกรที่ปลูกผักแบบไร้สารเคมี เพื่อมาใช้ในกระบวนการผลิต”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายวิทวัส จันนาวัน เจ้าของ และผู้จัดการฝ่ายขาย ร้านปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ “แม่มะลัย” โดยใช้นวัตกรรมในการยืดอายุของผลิตภัณฑ์
[caption id="attachment_228694" align="aligncenter" width="503"]
ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program :ITAP) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยผ่านเครื่องจักรที่มีการควบคุมความร้อนมากกว่า 200 องศา และมีการควบคุมความชื้นให้ตํ่ากว่า36% ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีอายุในการรับประทานได้ถึง1 ปี ตามกระบวนการทางวิทยา ศาสตร์ โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด
ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น ในระยะเริ่มต้นจะใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการนำผลิต ภัณฑ์ไปโพสต์จำหน่ายได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ช่องทางออฟไลน์จะวางจำหน่ายที่ร้านสุขสมบูรณ์ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ 11 สาขา รวมถึงร้านค้าในสนามบินจังหวัดอุดรธานี และร้านประชารัฐ ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศล่าสุดมีผู้ที่ทดลองนำเข้าไปทำตลาดที่ประเทศสิงคโปร์
“จากกลยุทธ์การทำตลาด และแผนที่จะดำเนินการในระยะต่อไป เชื่อว่าจะทำให้ปลาทูทรงเครื่องแม่มะลัยสร้างรายได้ได้ประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อปีและจะเพิ่มมากขึ้นตามช่องทางในการทำตลาดที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้ตามขั้นตอน”
สำหรับจุดเด่นของผลิต ภัณฑ์อยู่ที่การไม่ใส่ผงชูรส และสารกันบูด อีกทั้งยังผลิตมาจากเนื้อปลาทูที่สด สะอาดตามธรรมชาติ ผสมผสานกับสูตรของคุณยายทำให้ได้ปลาทูทรงเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ยังยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โปรตีน และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ที่เรียกว่า โอเมก้า 3 (Omega 3) ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ปลาทูทรงเครื่องแบรนด์ “แม่มะลัย” เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค และกำลังดำเนินการเรื่องการทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นออร์แกนิก เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนผสมของสมุนไพรด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องการทำให้เป็นรูปแบบ ของออร์แกนิก โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาติดต่อกับเกษตรกรที่ปลูกผักแบบไร้สารเคมี เพื่อมาใช้ในกระบวนการผลิต”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
