อีวีจีนกระตุกหนวด‘เทสลา’ เตรียมส่งซีดานไฟฟ้าบุกสหรัฐฯปีหน้า

01 ก.พ. 2561 | 06:08 น.
จีเอซี มอเตอร์ (GAC Motor) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีนเพิ่งจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ภายใต้ชื่อรุ่น จีอี3 (GE3) ไปหมาดๆ เมื่อต้นปีที่แล้วภายในงาน “นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์” ผ่านมาเพียงปีเดียว ภายในงานเดียวกันของปีนี้ ผู้บริหารของจีเอซีประกาศจะนำเก๋งซีดานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าบุกตลาดสหรัฐอเมริกาภายในปี 2562 และยังตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะนำรถยนต์อีวีรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างน้อย 7 รุ่น “เป้าหมายของเราคือการทำให้จีเอซี มอเตอร์ เป็นผู้นำในตลาดรถยนต์อีวีระดับโลก”

นายยู่ จุน ผู้บริหารของจีเอซี กล่าวในงาน “นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์” ปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดีทรอยต์ และบริษัทได้นำรถอีวีต้นแบบ รวมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดซีดานรุ่นใหม่มาจัดแสดง

[caption id="attachment_253811" align="aligncenter" width="503"] รถอีวีต้นแบบ “เอ็นเวิร์จ” ของค่ายจีเอซี รถอีวีต้นแบบ “เอ็นเวิร์จ” ของค่ายจีเอซี[/caption]

แม้จะเป็นการประกาศแผนบุกตลาดสหรัฐอเมริกาด้วยความมุ่งมั่น แสดงให้เห็นว่ารถอีวีจีนมาแน่ แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ต้องแล้วแต่ความเหมาะสม ยังมีรายละเอียดอีกมากที่จีเอซีจะต้องไขข้อข้องใจ เช่น จะสร้างเครือข่ายดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาอย่างไร ไหนยังจะต้องยื่นหนังสือขออนุญาตดำเนินธุรกิจที่มีกระบวนการซับซ้อนและต้องขอให้ได้ทันเป้าหมายขายรถในปีหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของจีเอซี ซึ่งบริษัทแม่เป็นบริษัทใหญ่ที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ในอันดับต้นๆ และ มีการร่วมทุนกับบริษัท เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ฯ อยู่ในประเทศจีน ประกาศชัดว่า บริษัทจะผลักดันให้จีนเข้ามาอยู่ในแถวหน้าของกระแสอุตสาหกรรมยานยนต์โลก โดยในปีที่ผ่านมา จีเอซี ได้เข้ามาเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา 1 แห่งในเมืองแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

การเปิดแนวรุกในตลาดสหรัฐฯที่มีบริษัท เทสลาฯ (Tesla) ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเจ้าถิ่นครองตลาดอยู่แล้วนั้น นับเป็นความท้าทายแต่ก็เป็นก้าวรุกที่สำคัญของบริษัทรถยนต์จีน ที่สำคัญคือการรุกดังกล่าวเริ่มได้รับแรงเสียดทานทางการเมืองตั้งแต่ระดับผู้บริหารสูงสุด คือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ เพิ่งจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการค้าของจีน โดยอ้างว่าจีนตั้งกำแพงภาษีกีดกันรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษีถึง 25% ขณะที่รถยนต์ผลิตในจีนเมื่อนำเข้ามายังสหรัฐฯถูกเรียกเก็บภาษีเพียง 2.5% เท่านั้น วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า นโยบายการค้ายานยนต์ของจีนนั้นไม่เป็นธรรมอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ถึงเรื่องนี้ว่า การเรียกเก็บภาษีที่แตกต่างกันมากนี้ ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐฯ

[caption id="attachment_253814" align="aligncenter" width="503"] แบรนด์ “ทรัมป์ชี่” ใช้ในประเทศจีน แบรนด์ “ทรัมป์ชี่” ใช้ในประเทศจีน[/caption]

ปัจจุบัน จีเอซีจำหน่ายรถยนต์ที่ผลิตในจีนในตลาดต่างประเทศ 14 ประเทศ และจากการที่บริษัทเข้าร่วมงาน “นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์” ที่เมืองดีทรอยต์ 4 ปีติดต่อกัน ทำ ให้มีเสียงตอบรับที่ดีและมียอดสั่งจองรถเพิ่มมากขึ้นทุกปี สำหรับตลาด จีน จีเอซีใช้แบรนด์ “ทรัมป์ชี่” (Trumpchi) เป็นหลัก แต่คาดว่าบริษัทจะไม่ใช้แบรนด์นี้ในตลาดสหรัฐฯ ส่วนรถอีวีต้นแบบที่นำมาจัดแสดงนั้น ใช้ชื่อรุ่น “เอ็นเวิร์จ” (Enverge) เป็นรถประเภทอเนก ประสงค์ (SUV) ขนาดเล็กที่พุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มคนหนุ่มสาว ภายในห้องโดยสารมีที่ชาร์จไฟฟ้าและที่เก็บโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) ด้วย นอกจากนี้ยังมียานยนต์ 2 ล้อไฟฟ้าแบบพับได้ (เซ็กเวย์) ติดตั้งบนหลังคา และไฟชุดหน้ารถที่สามารถแกะออกได้ สำหรับใช้เป็นไฟพกพาในยามต้องการ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของจีนนั้นได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาล เช่นได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี ทำให้มีความได้เปรียบในการออกแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือยุโรป แม้จะเป็นเรื่องดีสำหรับบริษัทของจีนเอง แต่ก็อาจกลายเป็นประเด็นพิพาททางการค้าระหว่างประเทศได้ในอนาคต หากคู่ค้าของจีนมองว่ามาตรการเหล่านี้ “ไม่เป็นธรรม” และทำให้ผู้ผลิตในประเทศของตัวเองเสียเปรียบ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว