ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศมาตรการอุดหนุนการสร้างงานมูลค่า 2 พันล้านยูโร หลังจากเศรษฐกิจฝรั่งเศสเติบโตได้ไม่รวดเร็วเพียงพอลดอัตราการว่างงาน และเสี่ยงที่จะกระทบกับแผนการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฟรองซัวส์ โอลล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยแผนการกระตุ้นการสร้างงานมูลค่า 2 พันล้านยูโรในสัปดาห์นี้ โดยเตรียมออกมาตรการต่างๆ อาทิ โครงการฝึกอบรมทางอาชีพ 5 แสนตำแหน่ง ให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทขนาดเล็ก ตลอดจนโครงการสนับสนุนการฝึกงาน
"เราจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้การเติบโตมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และเกิดการสร้างงานที่มากขึ้น" นายโอลล็องด์กล่าวต่อหน้าผู้นำสหภาพแรงงานและภาคธุรกิจ พร้อมกับระบุว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับภาวะฉุกเฉินทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งหมายถึงภัยคุกคามจากการก่อการร้ายหลังจากเกิดเหตุวินาศกรรมในกรุงปารีสเมื่อปลายปีก่อน
อย่างไรก็ดี มีเสียงวิจารณ์แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของนายโอลล็องด์ว่ามีเป้าหมายทางการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ อีกทั้งยังตั้งคำถามว่ามาตรการใหม่เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของฝรั่งเศสได้มากกว่ามาตรการที่ผ่านๆ มาของนายโอลล็องด์หรือไม่
นายโอลล็องด์กล่าวไว้ว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นวาระที่ 2 ถ้าอัตราว่างงานยังไม่ปรับลดลงมาในปีนี้ โดยอัตราว่างานของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเป็น 10.6% สูงสุดในรอบ 18 ปี จากประมาณ 9.7% นับตั้งแต่ที่นายโอลล็องด์เข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2555
เศรษฐกิจฝรั่งเศสเริ่มกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังจากไม่มีการเติบโตมาเป็นเวลา 3 ปี อย่างไรก็ดี อัตราการเติบโตยังไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะสร้างงานเพื่อลดจำนวนประชาชนที่ว่างงานอยู่ 3.5 ล้านคน ขณะที่อัตราการว่างงานในกลุ่มแรงงานหนุ่มสาวของฝรั่งเศสที่ 25.7% เป็นอัตราที่สูงลำดับต้นๆ ของยุโรป
ด้วยเวลาที่เหลืออีกเพียง 15 เดือนก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสในปี 2559 นายโอลล็องด์เผชิญกับแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าคะแนนนิยมล่าสุดของประธานาธิบดีจะกระเตื้องขึ้นหลังจากการรับมือกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงปารีส แต่คะแนนนิยมของผู้นำพรรคเนชั่นแนล ฟรอนต์ นางมารีน เลอ แปน คู่แข่งคนสำคัญของนายโอลล็องด์ มีเพิ่มมากขึ้นจากการหาเสียงโจมตีความอ่อนแอทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง
ภาคเอกชนฝรั่งเศสสร้างงานได้เพียง 4 หมื่นตำแหน่งเมื่อปีก่อน และนายโอลล็องด์ยอมรับว่า เศรษฐกิจที่เติบโตในระดับเกินกว่า 1% เล็กน้อยนั้น อ่อนแอเกินกว่าจะลดอัตราว่างงานที่ปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปซึ่งอยู่ที่ 9.8% และสูงกว่าอัตราว่างงาน 4.5% ของเยอรมนีกว่า 2 เท่า
การลงทุนของภาคธุรกิจยังคงอ่อนแอแม้ว่าจะมีมาตรการลดภาษีมูลค่า 4 หมื่นล้านยูโรที่นายโอลล็องด์อนุมัติเมื่อปี 2557 ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
สำหรับมาตรการอุดหนุนการจ้างงานที่ประกาศออกมาล่าสุด นายโอลล็องด์กล่าวว่า จะให้เงินอุดหนุนมูลค่า 2,000 ยูโรแก่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จ้างแรงงานหนุ่มสาวและคนว่างงานด้วยสัญญาจ้างเกินกว่า 6 เดือน นำคนว่างงาน 5 แสนรายเข้าสู่โปรแกรมฝึกอบรมทางอาชีพ จัดให้คนหนุ่มสาวทำงานในโครงการอาสาสมัครเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนคน จาก 6 หมื่นคนเมื่อปีก่อน
นายนิโคลัส เลอคอสแซง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย Institute for Research in Economic and Fiscal Issues กล่าวแสดงความเห็นต่อมาตรการใหม่ของนายโอลล็องด์ว่าเป็นมาตรการเดิมๆ ที่เคยนำมาใช้และไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสถานี iTELE พบว่า 77% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจไม่เชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยลดอัตราว่างงานได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,124 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2559