พลันที่มีการเปิดรับจอง
‘ทุเรียนไทย’ บนร้านค้าออนไลน์ของ
‘อาลีบาบา กรุ๊ป’ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวจีนก็ตอบรับด้วยการกระหน่ำสั่งซื้อจนยอดจองสูงถึง 80,000 ลูก ในช่วงเวลาเพียง 1 นาทีแรกของการจับจอง และนี่คือ ส่วนหนึ่งของความริเริ่มระหว่างไทย-จีน ที่มุ่งหวังเพิ่มยอดขายผลผลิตการเกษตรให้ไทยผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต
เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า รัฐบาลไทย-จีน จะทำงานร่วมกับ อาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้าน อี-คอมเมิร์ซ ของจีน ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลในประเทศไทย ซึ่งภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือที่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกันเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ความร่วมมือจะเกิดขึ้นในหลายด้าน ตั้งแต่การพัฒนา อี-คอมเมิร์ซ การพัฒนาโลจิสติกส์ดิจิตอล ไปจนถึงการฝึกอบรมบุคลากรและการท่องเที่ยว
สื่อจีนอ้างอิงข่าวแถลงของอาลีบาบา ว่า การสั่งซื้อทุเรียนไทยครั้งนี้ เป็นทุเรียนหมอนทอง 80,000 ลูก น้ำหนักรวม 200,000 กิโลกรัม สั่งซื้อโดยผู้บริโภคจีนที่เข้ามาใช้บริการของเว็บไซต์ทีมอลล์ (Tmall.com) ที่อยู่ในเครืออาลีบาบา ยอดสั่งซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 60 วินาทีแรกของการเปิดจองออนไลน์ และทั้งหมดนี้ ก็มีขึ้นหลังจากที่อาลีบาบา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองหางโจว ได้จัดทำข้อตกลงซื้อทุเรียนจากหน่วยงานภาครัฐของไทย มูลค่ารวม 3,000 ล้านหยวน หรือราว 478 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 15,296 ล้านบาท) ในระยะเวลา 3 ปี
ช่องทางจำหน่ายทุเรียนมีทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ในเครืออาลีบาบา อาทิ เว็บไซต์ทีมอลล์ ที่เน้นการซื้อขายแบบ B2C (Business-to-Consumer) ซูเปอร์มาร์เก็ตเหอหม่า (Hema) ตลอดจนไฮเปอร์มาร์เก็ต 450 RT-Mart ในเครือ ซัน อาร์ท รีเทล กรุ๊ป ที่เพิ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากอาลีบาบา 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเดือน พ.ย. 2560
สินค้าที่จำหน่ายบนเว็บไซต์ทีมอลล์นั้น มีความหลากหลาย บริษัทระบุว่า เท่าที่ผ่านมา มีการจำหน่ายทุเรียนผ่านเว็บทีมอลล์จำนวนมากกว่า 2 ล้านลูก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ทุเรียนได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาแห่งผลไม้’ ทุเรียนหมอนทองที่จำหน่ายบนเว็บทีมอลล์ มีราคา 199 หยวน (ราว 32 ดอลลาร์) ต่อน้ำหนัก 4.5 ถึง 5 กิโลกรัม ราคาดังกล่าวรวมค่าจัดส่งและภาษีไว้แล้ว
นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ อาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เปิดเผยว่า จีนกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขับเคลื่อนด้วยรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น และกำลังซื้อจากชนชั้นกลาง ซึ่งปัจจุบันมีราว 300 ล้านคน และยังโตขึ้นเรื่อย ๆ เขามองว่า ถึงเวลาเหมาะสมที่สุดแล้ว ที่นานาประเทศที่มุ่งให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศจะคว้าโอกาสนี้ส่งออกกสินค้าไปยังประเทศจีนให้มากขึ้น เนื่องจากจีนยังคงมีนโยบาย
“เปิดประเทศ” สำหรับสินค้าจากทั่วโลก
ในด้านการท่องเที่ยว ไทยเป็น 1 ในจุดหมายการเดินทางที่คนจีนชื่นชอบมากที่สุด แนวโน้มดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพยนตร์ Lost in Thailand ที่เข้ามาถ่ายทำในไทยและเข้าฉายในปี 2556 กระทั่งทุบสถิติเป็นภาพยนตร์ของจีนเรื่องแรกที่กวาดรายได้ทะลุ 1,000 ล้านหยวน สถิติในเดือน ก.พ. 2561 ชี้ว่า มีชาวจีน 1.2 ล้านคน มาเยือนประเทศไทย นับว่าเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2560
ข้อมูลจากอาลีบาบาชี้ว่า ผู้บริโภคชาวจีนซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมูลค่ากว่า 7.7 ล้านล้านหยวนผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทในปี 2560 ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มอาหาร
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
กรมส่งเสริมสหกรณ์ จับมือ "อาลีบาบา" ส่งทุเรียนบุกตลาดจีน
●
ดัน! 'ไทย' มหาอำนาจผลไม้โลก พาณิชย์ปลื้มส่งออกครึ่งปี 3.5หมื่นล.-บริโภคทุเรียนพุ่ง