การเปิดตัว “เอ็กซ์ซี60 โฉมใหม่” ปลายปีที่แล้ว วอลโว่มาแปลกเหนือธรรมชาติที่เคยทำมา ด้วยการนำรุ่นที่ประกอบจากโรงงานประเทศมาเลเซียมาทำตลาดทันที และเป็นไปตามนโยบายของท่านประธานใหม่ “คริส เวลส์” เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่ารถจะนำเข้ามาจากที่ไหน แต่การขายจะใช้ราคาเดียว ไม่ต้องรอ ไม่ต้องกั๊กกันอีกแล้ว
...สรุปว่า ต่อให้รถรุ่นใหม่ขึ้นเรือข้ามทะเลมาจากยุโรป(CBU) แต่เมื่อเปิดตัวพร้อมขายในไทยจะตั้งราคาระดับ CKD จากมาเลเซียนับแต่นี้ไป
“เอ็กซ์ซี60 โฉมใหม่” รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล D4 AWD Momentum ราคา 3.09 ล้านบาท ส่วนรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริดแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย T8 Twin Engine AWD Momentum 3.29 ล้านบาท และตัวท็อปมาพร้อมชุดแต่ง R-Design จากโรงงาน ราคา 3.59 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่สู้กับคู่แข่งจากเยอรมนีได้สบาย ทั้ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี,บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 และ อาวดี้ คิว5
ทั้งนี้ หากวัดสมรรถนะจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล “เอ็กซ์ซี60”อาจจะไม่โดดเด่นกว่าคู่แข่งในแง่อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต แต่ถ้าเป็นรุ่น ปลั๊ก-อินไฮบริด T8 ถือว่าได้แต้มชัดเจน เพราะพวกเยอรมนียังไม่มีขุมพลังลูกผสมลงมาทำตลาดในเอสยูวีกลุ่มนี้ หรือต่อให้มีก็ใช่ว่าจะเหนือชั้นกว่าวอลโว่เสมอไป
ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ “สปา” เกิดมาเพื่อรถแบบปลั๊ก-อินไฮบริดโดยเฉพาะ ทำให้วอลโว่มีที่ว่างเหลือเฟือในการออกแบบโครงสร้างตัวถัง ช่วงล่าง และขุมพลังขับเคลื่อน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด ชุดเดียวกับที่ใช้ในรุ่นพี่ “เอ็กซ์ซี90” วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เสริมระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ และซูเปอร์ชาร์จ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดลงสู่ล้อหน้า พร้อมฝังมอเตอร์/เจเนอเรเตอร์ เอาไว้ระหว่างเครื่องยนต์กับชุดเกียร์ ซึ่งจะเป็นทั้งไดสตาร์ทเครื่องยนต์ และทำหน้าที่ปั่นไฟกลับเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่
ส่วนการขับเคลื่อนล้อหลัง วอลโว่เลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิด 240 นิวตัน-เมตรให้มาช่วยเสริมพลังจากเครื่องยนต์ นั่นหมายถึงการขับเคลื่อนพร้อมกันของ 2 ขุมพลัง รถจะกลายเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (ไม่มีเพลากลาง) และให้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เพียง 5.3 วินาที แรงเทียบเท่าสปอร์ตคาร์ชั้นดีเลยทีเดียว
วอลโว่ ยังบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการวางชุดแพ็กแบตเตอรี่ไว้เป็นแนวยาวกลางตัวรถ ประโยชน์คือปลอดภัย-อุ่นใจหากเกิดการชนปะทะ และไม่เสียพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง (อย่างเอ็กซ์ซี90 วางเบาะนั่งแถว 3 ได้สบาย) ขณะเดียวกันยังทำให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การกระจายน้ำหนักหน้า-หลังสมดุล
ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยกันทำงานอย่างขมีขมัน สัมผัสหลังกดคันเร่งรู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่า พุ่งทะยานรวดเร็ว การนั่งอยู่หลังพวงมาลัยบนความเร็ว 100-120 กม./ชม. สามารถควบคุมรถได้สบายมือ บนความนิ่งแน่นของช่วงล่างและโครงสร้างตัวถัง ที่สำคัญยังเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีมากๆ
ภายในห้องโดยสารของ “เอ็กซ์ซี60” T8 Twin Engine เงียบเหนือชั้น อารมณ์ได้เปรียบเอสยูวีดีเซลจากเยอรมัน และถ้าใครเพิ่มเงินอีก 3 แสนเพื่อรุ่นท็อป R-Design ยังได้เครื่องเสียงหูทอง Bowers & Wilkins มาพร้อมแอมพลิฟายเออร์ขนาด 1,100 วัตต์ และลำโพง 15 ตัว เสียงแน่นราวกับยกโฮมเทียร์เตอร์มาไว้ในรถ
ในส่วนรุ่นท็อป 3.59 ล้านบาท ยังได้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว(รุ่นMomentum 18 ล้อ 18 นิ้ว) พร้อมชุดแต่ง R-Design รอบคัน ระบบไฟหน้าปรับทิศทางตามองศาพวงมาลัยและปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ส่วนภายในเห็นแป้นเบรก-คันเร่งแบบสปอร์ต แบะนั่งหุ้มหนัง Nuback สลับ Nappa รวมถึงจอแสดงผล Head-up Display บนกระจกบังลมหน้า และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศาช่วยในการถอยจอด พร้อมระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
ด้านระบบความปลอดภัยที่วอลโว่ไม่เคยประณีปะนอมในการติดตั้งเข้ามาเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกรุ่น และเหนือกว่าบรรดาคู่แข่งไปอีกขั้นคือ ระบบช่วยบังคับรถหักเลี้ยว (Steer Assist) พวงมาลัยจะหมุนหักหลบวัตถุอัตโนมัติ หากประเมินว่ารถจะชนแน่ๆโดยผู้ขับไม่ตอบสนองกับสถานการณ์คับขัน ซึ่งระบบนี้ทำงานได้บนความเร็ว 50 – 100 กม./ชม.
เหนืออื่นใด ด้วยกล้องรอบคันพร้อมเรดาร์เซ็นเซอร์จะคอยระมัดระวังการพุ่งเข้ามาชนจากรถคันอื่นให้คนขับ “เอ็กซ์ซี60” ด้วย ทั้งจุดอับสายตาจากด้านท้าย และรถที่วิ่งสวนทางมา โดยระบบนี้จะทำงานได้บนความเร็ว 60-140 กม./ชม. ขณะที่ระบบช่วยการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Pilot Assist) เจเนอเรชันที่ 2 ยังอัจฉริยะมากขึ้น โดยไม่ต้องมีรถคันหน้านำ ขอให้มีเส้นถนนชัดเจน พร้อมทำงานบนความเร็ว 30-130 กม./ชม.(แค่ตั้งความเร็วและตั้งระยะห่างระหว่างรถคันหน้า คนขับสามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัย แล้วรถจะวิ่งไปตามช่องถนนโดยอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะกับการขับบนมอเตอร์เวย์ที่ถนนกว้างและเป็นโค้งยาว)
ในรุ่น T8 Twin Engine เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยกันทำงานอย่างราบรื่น และความได้เปรียบจากการเป็นรถปลั๊ก-อินไฮบริดคือ สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ โดยรถจะอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จมาเต็มที่แล้วขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวแบบไม่ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์ได้ในระยะทางสูงสุด 44.92 กม. (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและลักษณะการขับด้วย) ดังนั้นถ้าผู้ขับเท้านิ่งๆ ไม่กระแทกคันเร่งแบบหนักหน่วงรวดเร็ว เครื่องยนต์ก็ไม่เข้ามาเสริมการทำงานครับ โดยการขับลักษณะนี้ผมสามารถทำความเร็วจากพลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆได้เกิน 100 กม./ชม.เลยทีเดียว
รวบรัดตัดความ... “เอ็กซ์ซี60” เป็นเอสยูวีรุ่นขายดีของค่าย และรุ่นใหม่เจเนอเรชันที่2 พัฒนาคุณภาพและสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าสอดประสานการทำงานได้เฉียบขาด พลังแรง การทรงตัวเยี่ยม แต่สัมผัสของเบรกยังไม่ค่อยนุ่มนวลนัก โดยรวมถือเป็นรถที่มีความคุ้มค่าต่อราคาสูงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ