"มิตซูบิชิ มอเตอร์ส" ประกาศเป้าหมายปี 61 คาดจำหน่ายรถทั่วโลก 1.25 ล้านคัน

21 พ.ค. 2561 | 11:55 น.
- 21 พ.ค. 61 - นาย โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางของบริษัทฯ นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมของมิตซูบิชิ โดยสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยมียอดจำหน่ายสุทธิรวม 2.19 ล้านล้านเยน (ประมาณ 640,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2559 และมีผลกำไร 98,200 ล้านเยน (ประมาณ 28,700 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5,100 ล้านเยน หรือ 4.5% เมื่อเทียบกับผลกำไรในปีงบประมาณก่อนหน้า

Mr. Masuko

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 107,600 ล้านเยน (ประมาณ 31,400 ล้านบาท) จากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมา พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 198,500 ล้านเยน (หรือประมาณ 58,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2559

ขณะที่ยอดจำหน่ายรวมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า อยู่ที่จำนวน 1,101,000 คัน

DSC_5041

โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 33% หรือคิดเป็นจำนวนรวม 275,000 คัน ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ขับเคลื่อนโดยยอดจำหน่าย มิตซูบิชิ ไทรทัน ในประเทศไทย และจากรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากการเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา

 

ส่วนยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศจีนอยู่ที่จำนวน 136,000 คัน เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการผลิต มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ที่ศูนย์การผลิตในประเทศจีน ในขณะที่ยอดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่จำนวน 98,000 คัน เพิ่มขึ้น 23% เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อรถเคคาร์ รวมถึงรถยนต์รุ่น อีเคแวกอน และ อีเค สเปซ เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ เดลิกา ดีไฟฟ์ และรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นอื่นๆในตระกูลแอคทีฟเกียร์ 7-1

ทั้งนี้รถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์นับเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นหลักที่ใช้ทำตลาดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมถึงใหม่ ซึ่งเริ่มจำหน่ายในยุโรปเป็นที่แรก และเปิดตัวในภูมิภาคโอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ในลำดับต่อมา

นาย มาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2561 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวม 1.25 ล้านคัน โดยจะเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2560 ส่วนรายได้จากยอดจำหน่ายรวมคาดการณ์ว่าจะเติบโต 9% มาอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านเยน (ประมาณ 700,000 ล้านบาท) และคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 110,000 ล้านเยน หรือเพิ่มขึ้น 4.6% และรายได้สุทธิที่ 110,000 ล้านเยน (ประมาณ 32,100 ล้านบาท)

 

"รถในรุ่น อีคลิปส์ ครอสส์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ จะเป็นตัวขับเคลื่อน และคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศจีนซึ่งมีการเพิ่มกำลังการผลิตจากการร่วมทุนรวมถึงการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ตลอดจนการฟื้นฟูยอดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นที่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโต" Mitsubishi-Eclipse-Cross-Gallery-front-d

นาย มาสุโกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า มิตซูบิชิยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา ทั้งนี้ปีงบประมาณ 2561 เป็นปีที่สองของการดำเนินงานภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางของบริษัทฯ จึงนับว่าเป็นปีที่มีความสำคัญยิ่งแม้บริษัทได้มุ่งขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการขยายธุรกิจและการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของมิตซูบิชิ