‘โมโน’รีแบรนด์ดูหนังดอตคอม เชื่อมโยงบริการธุรกิจในเครือรับกระแสนิยมแตะพันล้าน

06 ก.พ. 2559 | 13:00 น.
โมโน กรุ๊ป รุกธุรกิจ "วิดีโอ ออนดีมานด์" รับกระแสดูหนังออนไลน์เติบโตเท่าตัว ตัวเลขแตะพันล้านบาท กับการมาของ 4G-คู่แข่งต่างประเทศ ล่าสุดรีแบรนด์ "ดูหนังดอตคอม"เป็น "โมโน แม็กซ์" ให้สอดคล้องกับธุรกิจในเครือ ตั้งเป้าเติบโตเท่าตัว กวาดลูกค้า 2 ล้านราย

นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน ฟิล์ม จำกัด หรือ โมโน กรุ๊ป เปิดเผยว่าปีนี้ตลาดวิดีโอ ออนดีมานด์ของไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีตัวเลขการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยมีมูลค่าราว 1 พันล้านบาท จากเดิมปีที่ผ่านมาคาดว่ามีมูลค่า 500 ล้านบาท หรือ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยในปี 2558 ที่มีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมเสพความบันเทิงผ่านสมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์มากขึ้น ขณะเดียวกันการเติบโตของผู้ใช้โมบายอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น และการเปิดให้บริการ 4G จะช่วยให้การบริโภคคอนเทนต์เพิ่มขึ้น เกื้อหนุนให้ธุรกิจวิดีโอออนดีมานด์เติบโตขึ้นด้วย

นอกจากนี้ยังมองว่าการเข้ามาของคู่แข่ง โดยเฉพาะเน็ตฟิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่จากต่างประเทศนั้นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน และกระตุ้นให้เกิดการรับรู้บริการวิดีโอออนดีมานด์ มากขึ้น

นายปฐมพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่าล่าสุดกลุ่มโมโน กรุ๊ป ได้เปลี่ยนชื่อบริการวิดีโอออนดีมานด์ จาก "ดูหนังดอตคอม" เป็น "โมโนแม็กซ์" (Mono Maxxx) ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้อง และเชื่อมต่อแบรนด์กับผลิตภัณฑ์ และบริการในกลุ่ม "โมโน กรุ๊ป" ที่ในอนาคตวางแผนเป็นผู้ให้บริการความบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ในปีนี้มีแผนใช้งบการตลาดที่รวมการโปรโมตแบรนด์ใหม่ไว้ราว 50-70 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามภายใต้บริการ โมโนแม็กซ์ ยังคงจุดแข็งในการเป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ ที่มีคอนเทนต์ผสมผสานระหว่างตะวันตก และตะวันออก สัดส่วน 50:50 เพื่อสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นทั้งในและต่างประเทศ ที่ส่วนใหญ่เน้นคอนเทนต์จากฝั่งตะวันตก

นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มจำนวนภาพยนตร์ในการให้บริการโดยมีทั้งการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ที่ขณะนี้มีการเจรจาไว้แล้วกว่า 1 หมื่นเรื่อง จากปัจจุบันมีคอนเทนต์ให้บริการอยู่ 2.8 พันเรื่อง รวม 5 พันชั่วโมง และยังมีแผนร่วมมือกับโมโน ฟิล์ม ในการผลิตคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟขึ้นมาให้บริการผ่านโมโนแม็กซ์ ร่วมถึงการจัดโรดโชว์ไปยังตลาดต่างจังหวัดเพื่อสร้างการรับรู้ และขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น

สำหรับสัดส่วนกลุ่มลูกค้าขณะนี้ในกรุงเทพมีสัดส่วนประมาณ 40% และ ต่างจังหวัด 60% สำหรับกลุ่มผู้รับชมมีอายุเฉลี่ยประมาณ 35 ปี ในแง่ของพฤติกรรมการรับชมวิดีโอ ออนดีมานด์นั้น รับชมสัปดาห์ละ 8 ชั่วโมง เฉลี่ยวันละ 1-2 ชั่วโมงและรับชมสูงสุดสัปดาห์ละ 16 ชั่วโมง

"ภาพยนตร์ที่นิยมรับชมสูงสุด เป็นภาพยนตร์แอกชัน รองลงมาคือ ตลก และผู้บริโภค นิยมรับชมผ่านทางอุปกรณ์สมาร์ทโฟน สัดส่วนประมาณ 60% สมาร์ททีวี 35% และ คอมพิวเตอร์ 5%"

นายปฐมพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายการเติบโตโดยคาดการณ์ว่าจะมีตัวเลขฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย จากปีที่ผ่านมา 1 ล้านราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นลูกค้าที่สมัครใช้บริการแพ็กเกจนานกว่า 3 เดือน กว่า 60% และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้มากกว่า 155 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559