-26 ก.ค.2561-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.15 น. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้กล่าวถึงการเดินหน้าจัดการขยะมูลฝอยของกระทรวงมหาดไทยว่า เรื่องขยะถือมีความสำคัญที่สุด เดิมมีกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกคนไม่ต้องการขยะในพื้นที่ตัวเอง เราไปบังคับไม่ได้ พวกเขาก็อ้างว่าไม่มีกฎหมายที่จะทำให้สามารถจัดการขยะได้ จึงต้องมีมาตรา 44 เรื่องผังเมือง ซึ่งไม่ใช่ปลดล็อกเพื่อให้ใครหรือเจ้าใดเจ้าหนึ่งมาทำ ก็ต้องไปหาคนมาทำ ไม่เช่นนั้นก็ดำเนินการไม่ได้ เพราะพื้นที่นั้นห้ามมีของเสีย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องตอบคำถามเรื่องการแก้ปัญหาสังคมและขยะได้ หน้าที่นี้เป็นของท้องถิ่น ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคล
กระทรวงมหาดไทยก็สั่งไม่ได้ เพียงแต่กำกับดูแลให้ท้องถิ่นทำตามนั้น โดยที่ไม่มีการเคลื่อนย้ายขยะที่เรี่ยราดอยู่ในวันนี้ โดยขยะในบ้างพื้นที่ เช่นที่จ.ระยองขยะบางส่วนต้องขนไปทิ้งที่จ.สระบุรี นั่นคือเหตุผลที่ออกมาตรา 44เพื่อปลดล็อกเรื่องผังเมือง ให้สามารถทำโรงงานขยะได้ แต่การจะเอาขยะไปฝังกลบหรือเอาไปทำเป็นปุ๋ยหรือพลังงานก็มีกฎหมายของกระทรวงพลังงานอยู่ว่าท้องถิ่นสามารถทำเองได้หรือไม่ หรือจะร่วมกับใครได้หรือไม่ ขอให้ดูให้ลึกซึ้งหน่อยก็แล้วกัน ถ้าเราวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์กันแบบเดิม มันก็กลับไปที่เก่า กลายเป็นว่าเอาประโยชน์ไปเอื้อใคร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
“มหาดไทยจะได้ประโยชน์ตรงไหน ในเมื่อเพียงกำกับดูแล ไม่ได้เป็นคนอนุญาตสร้างโรงงานอะไรต่างๆ เป็นเรื่องของท้องถิ่น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและให้กำลังใจจิตอาสา ที่มาร่วมกิจกรรมทำความดี อย่างใกล้ชิด พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน ดูแลรักษาความสะอาดบ้านเมือง โดยขอว่าให้ทุกคนร่วมมือกันทิ้งขยะให้ถูกที่ และใช้โอกาสชี้แจงการปลดล็อกพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับผังเมืองบางฉบับ ว่าเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการขยะในพื้นที่ได้เอง โดยที่ไม่ต้องขนย้ายออกนอกพื้นที่ ให้เสียงบประมาณเพิ่มเติม จึงขอให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็น ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์กับใคร กลับจะช่วยลดการใช้งบประมาณที่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้