ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นจาก 33.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นวันทำการที่ผ่านมาและเป็นการแข็งค่าแตะจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 สัปดาห์ของค่าเงินบาท การแข็งค่าของค่าเงินบาทราว 1.4% จากจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ได้รับอานิสงส์จากความเห็นของผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มองว่าธปท.อาจมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายไว้ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
นอกจากนี้ค่าเงินเอเชียยังได้รับแรงหนุนจากความหวังของตลาดต่อการเจรจาการค้าระหว่างทางการจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดเริ่มคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น อย่างไรก็ดี แม้ว่าความกังวลต่อวิกฤติค่าเงินลีรา (TRY) ของตุรกีเริ่มลดลง แต่ทว่า แนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวของรัฐบาลตุรกีอาจจะไม่ได้ช่วยตุรกีรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง ดังนั้นความกังวลต่อวิกฤติค่าเงินลีราตุรกีจึงอาจจะกลับมาร้อนแรงได้ทุกเมื่อ ซึ่งนักลงทุนและผู้ประกอบการควรเตรียมพร้อมรับมือกับแนวโน้มความผันผวนที่จะเพิ่มสูงขึ้น มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 32.80-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ไปอีกสักระยะ จนกว่าจะมีปัจจัยที่ชัดเจนมากขึ้น อาทิเช่น ตลาดเริ่มรับความเสี่ยงสินทรัพย์ไทยมากขึ้น ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นและบอนด์หนุนให้ค่าเงินบาทกลับไปแข็งค่าต่อ สำหรับวันนี้ มองกรอบค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ