S&P ลดเครดิตบราซิลซ้ำ เหตุปัญหาการเมืองและงบประมาณ

24 ก.พ. 2559 | 14:30 น.
เอสแอนด์พี ปรับลดอันดับเครดิตของบราซิลเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 6 เดือน อ้างปัญหารุมเร้าทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือเอสแอนด์พี ประกาศปรับลดอันดับเครดิตของประเทศบราซิลลงจากระดับ BB+ เหลือ BB ด้วยแนวโน้มเป็นลบ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับการลงทุน 2 ขั้น โดยการปรับลดเครดิตในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 5 เดือนหลังจากเอสแอนด์พีเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายแรกที่ปรับลดเครดิตของบราซิลสู่ระดับขยะเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ก่อนที่ฟิตช์ เรตติ้งส์ จะเป็นรายต่อมาที่ปรับลดในเดือนธันวาคม

เอสแอนด์พีให้เหตุผลถึงความล้มเหลวของรัฐบาลบราซิลในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางวิกฤติทางการเมืองและเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้เศรษฐกิจของบราซิลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาใต้ มีแนวโน้มที่จะถดถอยรุนแรงที่สุดสองปีติดต่อกันนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติในปี 2444 หลังจากปีที่ผ่านมาหดตัวประมาณ 4%

"เวลานี้เราคาดหมายว่า กระบวนการปรับแก้นโยบายการเงินจะยาวนานขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจจะหดตัวอย่างรุนแรงอีกหนึ่งปี" เอสแอนด์พีระบุในแถลงการณ์

การขาดดุลงบประมาณของบราซิลเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งในปี 2554 โดยการขาดดุลอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2558 เกือบ 5 เท่าของการขาดดุลในปี 2554

ด้านกระทรวงการคลังของบราซิล ออกแถลงการณ์ตอบโต้การตัดสินใจของเอสแอนด์พี พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าอันดับเครดิตจะถูกปรับขึ้นเมื่อมาตรการปรับดุลงบประมาณและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มแสดงผล ทั้งนี้รัฐบาลบราซิลกำลังดำเนินการออกกฎหมายลดเป้าหมายงบประมาณประจำปี 2559 โดยต้องการควบคุมให้อยู่ที่ประมาณ 2.4 หมื่นล้านเรียล ลดลงจากระดับเกือบ 7 หมื่นล้านเรียลในปี 2558

ความพยายามในการลดการขาดดุลของรัฐบาลบราซิลเผชิญกับอุปสรรคเนื่องจากรายได้จากภาษีที่ลดลงจากผลของเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความล้มเหลวของนางรูสเซฟฟ์ในการผลักดันข้อเสนอด้านงบประมาณหลายฉบับผ่านสภา เอสแอนด์พีระบุว่า กระบวนการยื่นถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง รวมถึงผลกระทบทางการเมืองจากข่าวฉาวการคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมันที่มีรัฐเป็นเจ้าของ

การถูกปรับลดอันดับเครดิตอาจเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยนของเงินเรียล และทำให้นักลงทุนตัดสินใจถอนเงินออกจากประเทศ และเพิ่มต้นทุนกู้ยืมสำหรับรัฐบาลและบริษัทเอกชนของบราซิล โดยเงินเรียลอ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 30% เมื่อปีก่อน
โรเบอร์โต้ พาโดวานี นักเศรษฐศาสตร์จากบังโก้ โวโตรานทิม ในกรุงเซาเปาโลของบราซิล กล่าวว่า การตัดสินใจลดอันดับเครดิตโดยเอสแอนด์พีแสดงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายลง "นี่จะทำให้นักลงทุนที่ยังอยู่ในบราซิลคิดว่าจะอยู่ต่อไปหรือไม่ และเราอาจจะได้เห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศมากขึ้น"

นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า การปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย บาร์เคลย์สคาดหมายว่า เอสแอนด์พีจะลดอันดับเครดิตบราซิลอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ส่วนมูดี้ส์และฟินช์มีโอกาสลดเครดิตลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งนี้ในขณะนี้มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เป็นสถาบันจัดอันดับรายใหญ่รายเดียวที่ยังคงเครดิตของบราซิลไว้ในระดับลงทุน

ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ประจำสัปดาห์โดยธนาคารกลางบราซิลล่าสุดพบว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์การหดตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 3.33% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ 3.21% เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคคาดว่าจะอยู่ที่ 7.61% ในปีนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,133 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559