'กอบศักดิ์' เปิดภารกิจพิชิตจน! ปูพรมธนาคาร 8 พันตำบล

01 ต.ค. 2561 | 11:48 น.
011061-1838

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์พิเศษรายการ "ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ"
ออกอากาศทาง Nation TV ช่อง 22 เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ปัญหาความยากจน ว่า ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา นอกจากได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ กว่า 20 โครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแล้ว หลักการสำคัญ คือ ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนจากฐานราก






ตัวอย่างของชุมชนที่ประสบความสำเร็จ คือ ชาวบ้านสามารถรวมกลุ่มกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง จากงานวิจัยระบุชัดเจนว่า สินค้าเกษตรราคา 100 บาท เกษตรกรได้แค่ 2 บาท อีก 98 บาท ตกอยู่กับคนกลาง แต่ถ้าเกษตรกรรวมกลุ่มกันจะได้ 5 บาท หากแปรรูปได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ดังนั้น หัวใจสำคัญ คือ ต้องให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกัน ทำให้เกิดพลังและสร้างอำนาจต่อรองเองได้ โดยรัฐบาลตั้งใจจะปลดล็อกเรื่องเหล่านี้ให้ โดยกำลังผลักดันร่างกฎหมายธนาคารชุมชน เพื่อยกสถานะกลุ่มออมทรัพย์ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มการเงินชุมชนที่แข็งแรง ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศให้เป็นสถาบันการเงินชุมชนถูกต้องตามกฎหมาย

ตั้งเป้าให้มีธนาคารชุมชน ตำบลละ 1 แห่ง ราว 7,800 แห่งทั่วประเทศ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1% ต่อเดือน หากตำบลมีขนาดใหญ่และพร้อม ก็สามารถมีให้มี 2 แห่งได้ โดยคาดว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านภายในต้นปีหน้า ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบได้แล้ว ยังแก้ปัญหาเรื่องที่ดินหลุดมือให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย

เพิ่มเพื่อน
นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับแก้กฎหมายขายฝาก ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความสำคัญ โดยได้สั่งการให้ดำเนินการเป็นเรื่องด่วน ต้องออกมาให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งยังกำชับว่า ต่อไปนี้จะไม่มีกฎหมายขายฝากฉบับไหนในประเทศไทยที่กำหนดการชำระหนี้ต่ำกว่า 1 ปี และต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน 6 เดือน ถ้าไม่แจ้งให้ต่ออายุอัตโนมัติทันที 6 เดือน

ในร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังกำหนดด้วยว่า กรณีไม่เจอเจ้าหนี้ ลูกหนี้สามารถไปจ่ายที่สำนักวางทรัพย์ได้ หากหลุดมือจริง ๆ ในร่างกฎหมายก็คุ้มครองลูกหนี้ให้ขยายเวลาการชำระหนี้ได้อีก 1 ปี หลังครบกำหนด ทั้งยังกำหนดให้ต้องส่งเอกสารสัญญาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดู เพื่อไม่ให้เอาเปรียบลูกหนี้

อีกเรื่องที่ผ่านมา ได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายป่าไม้ ประมาณ 6 มาตรา ให้ต่อไปนี้ประชาชนสามารถทำประโยชน์ในไม้มีค่าทุกชนิดที่ปลูกในที่ดินกรรมสิทธิ์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนปลูกไม้เศรษฐกิจ เปลี่ยนสินทรัพย์ของประชาชนที่มีอยู่ให้เป็นสินทรัพย์ที่แท้จริง และทำให้ที่ดินมีค่า โดยร่างกฎหมายฉบับนี้อยู่ในขั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นกฎหมายอีกฉบับที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดแบบด่วนพิเศษ คาดว่าปลายปีนี้กฎหมายฉบับนี้น่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้

 

[caption id="attachment_326428" align="aligncenter" width="503"] นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์พิเศษรายการ "ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ" นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์พิเศษรายการ "ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ"[/caption]

ทั้งยังมีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับที่กำลังดำเนินการ อาทิ กฎหมายป่าชุมชน เพื่อให้เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตของชุมชน ให้ชาวบ้านสามารถเข้าไปทำมาหากิจได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการบุกรุกป่า ให้ชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการได้ ซึ่งปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 20,000 ชุมชน ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขณะเดียวกัน กำลังดำเนินการแก้กฎระเบียบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก นำกฎหมายปัจจุบันมาทบทวน และขจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคออกไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 700,000 เรื่องที่ต้องดำเนินการ

ล่าสุด เตรียมเสนอให้มีสภาพัฒนาตำบล โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ออกระเบียบสำนักนายกฯ เพื่อให้เป็นเวทีของคนในชุมชน มาร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนาและอนาคตชุมชนด้วยตัวเอง โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาผู้นำชุมชนคนรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนกลุ่มคน หรือ ผู้นำชุมชน (ปราชญ์ชาวบ้าน) ที่เคยสร้างไว้มาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่เริ่มสูงอายุกันมากขึ้น โดยจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ มีปราชญ์ชาวบ้านรุ่นเก่าเป็นพี่เลี้ยง สามารถเสนอโครงการให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. พิจารณา โดยปีแรกรัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ให้ 200 ล้านบาท โครงการที่เข้าเกณฑ์จะได้ทุนเริ่มต้นที่ 2 แสนบาท สามารถขอขยายโครงการได้ เป็นต้น

 

[caption id="attachment_326430" align="aligncenter" width="321"] นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[/caption]

"สิ่งที่ได้ดำเนินการเหล่านี้ได้ใจประชาชน เพราะเป็นโครงการที่ประชาชนบอกมา เชื่อมั่นว่า หากสามารถเขี่ยปลิงดูดเลือดอยู่นี้ออกไปได้ ดำเนินการให้เกิดขึ้นได้ มั่นใจว่า ภายใน 3-4 ปี ชาวบ้านจะค่อย ๆ พลิกฟื้นกลับเป็นปกติและร่ำรวยได้ด้วยตัวของเขาเอง นี่คือ สิ่งที่รัฐบาลเชื่อมั่นว่า จะสามารถพิชิตความจนได้" นายกอบศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,405 วันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 2561 หน้า 15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'กอบศักดิ์' ย้ำ! เมื่อเวลาเหมาะสม "จะสวมหมวกใบเดียว" ลั่น! ไม่เอาเปรียบคู่แข่ง-ตรวจสอบได้
'กอบศักดิ์' ว่าที่โฆษกฯ "พลังประชารัฐ"
เพิ่มเพื่อน e-book-1-503x62-7