ใช้ความสัมพันธ์แบบไทยเข้าใจตลาด

23 ก.พ. 2559 | 03:40 น.
ย้อนกลับไปตำราเรียนสมัยที่เรายังเด็ก ปูนิ่มจำได้ว่าประเทศไทยหรือสยามประเทศเมื่อหลายร้อยปีก่อนคือพื้นที่หนึ่งในเส้นทางการเดินเรือโลก เส้นทางการค้าที่เชื่อมทั้งโลกไว้ด้วยกันผ่านการแลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งแต่ละประเทศต่างมีความต้องการแตกต่างกัน พื้นที่หนึ่งที่ผงพริกไทยมีมูลค่าดุจทองคำแต่ในอีกพื้นที่ผงพริกไทยกลับมีกินมีใช้ไม่มีวันหมด พื้นที่ซึ่งเป็นไปด้วยของป่าไร้ราคาแต่กลับสร้างมูลค่ามหาศาลในอีกซีกโลกหนึ่ง จุดนี้เองที่ทำให้แต่ละส่วนของโลกมีการติดต่อสื่อสาร ซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้ามาจนถึงปัจจุบัน

แต่นอกจากชัยภูมิที่ดีของประเทศไทยแล้ว สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับคนทุกชาติที่เข้ามาเยือนก็คือ ไมตรีจิต
และมิตรภาพอันดี โดดเด่นด้วยรอยยิ้มที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น จนก่อเกิดเป็นการเดินทางหวนกลับมาไม่รู้เบื่อ สร้างให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของทุกคนจากทั่วทุกมุมโลก และลักษณะนิสัยที่น่ารักของคนไทยนี้เองที่ปูนิ่มเลือกที่จะนำมาใช้ในการสร้างพื้นที่เปิดรับลูกค้ารายใหม่ๆ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ารายเดิมจนกลายเป็นความผูกพันระยะยาวต่อสินค้า ต่อแบรนด์ของเรา

ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าเราทุกคนชอบการดูแลเอาใจใส่ โดยเฉพาะคนไทยอย่างเราๆ การดูแลก่อนซื้อถือเป็นการสร้างความประทับใจด่านแรก แต่การดูแลหลังซื้อหรือหลังการขายจะเป็นการสร้างความผูกพันและการเป็นตัวเลือกแรกของเราในหัวของลูกค้าระยะยาว ในตลาดสินค้าเสริมความงามแบบปกติที่มีอัตราแข่งขันกันสูงมากใครมาก่อนครองตลาดก่อน แต่ในตลาดโซเชียล คอมเมิร์ช มาก่อน – มาหลัง ไม่สำคัญ อยู่ที่ใครจับความต้องการของลูกค้าได้อยู่หมัดกว่ากัน

ในวันที่ปูตัวเล็กๆ อย่างปูนิ่มมีแรงเพียงแค่หาแหล่งน้ำแห่งใหม่ อย่าไปพูดถึง Blue Ocean หรือ Red Ocean แค่หลุมน้ำเล็กๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับการต่อชีวิต ปูนิ่มขุดเอาประสบการณ์การเป็นแม่ค้าแผงลอยตั้งแต่ยังเด็กมาใช้ในโลกออนไลน์ ตั้งแต่การป่าวประกาศบอกสรรพคุณดึงดูดความสนใจ เปลี่ยนความคิดจากการขายเพื่อเร่งหาเงินเข้ากระเป๋ามาสร้างเพื่อนที่สนใจสินค้าชนิดเดียวกัน เปิดใจ แลกเปลี่ยน สร้างประสบการณ์เชิงบวกร่วมกัน ใช้จุดเด่นของคนไทยเอาใจเข้าแลกใจ จากเพื่อนที่คอยถามโน่น ถามนี่ มีทั้งคำถามเดิมๆ และคำถามที่เกิดจากการไปฟังหรือไปอ่านสรรพคุณของเพื่อนในตลาดคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนเป็นลูกค้าที่เป็นต้นทางของการบอกต่อโดยที่เราไม่ต้องใช้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือโฆษณาแบรนด์แม้แต่บาทเดียว

ยุคที่ใครๆ ต่างหาช่องทางการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยการค้าขายผ่านระบบออนไลน์เชื่อเถอะค่ะว่า แม้การหดสั้นของเวลาจะเป็นตัวสร้างธุรกิจ แต่ลมหายใจที่จะทำให้ธุรกิจดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนก็คือหัวใจของการให้ หัวใจของคนไทยที่ยิ้มให้แก่กันและกันตลอดเวลา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,133 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559