เอ.พี.ฮอนด้า ประกาศแผนปี 59

27 ก.พ. 2559 | 12:00 น.
เอ.พี.ฮอนด้า เดินหน้าโกยแชร์เบอร์ 1 ตลาดสองล้อเมืองไทย เตรียมผลักกลยุทธ์รถใหม่ 10 รุ่น–สร้างความเข้มแข็งเครือข่าย-ทุ่มหลายร้อยล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์ขับขี่ 2 แห่ง พร้อมแต่งตั้งคนไทยขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง

นายโนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า กลยุทธ์ในปี 2559 ที่บริษัทได้วางไว้ ประกอบไปด้วย 1.ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าใหม่ (New Valued Products) และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value-Added products), 2.พัฒนาเครือข่ายใหม่ อาทิ การขยายเครือข่าย ฮอนด้า บิ๊กวิง เพิ่มอีก 8 แห่งเป็น 21 แห่งครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่

ขณะที่เครือข่ายทั่วไปจะพัฒนาตามคอนเซปต์ใหม่ที่เรียกว่า New Valued Network ซึ่งจะเริ่มทำโครงการนี้ในปีหน้าเป็นต้นไป

ประการต่อมา คือ นำเสนอความสนุกสนานในการขับขี่ผ่านศูนย์ Active Riding Center ที่ต่อยอดมาจากศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยมาสู่การขับขี่แบบท่องเที่ยวและขับขี่แบบสปอร์ต โดยศูนย์ Active Riding Center มีการใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท และจะเปิดให้บริการที่เชียงใหม่และภูเก็ตในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้

นายนางาตะกล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนงานที่วางไว้ บริษัทจะเปิดตัวรุ่นใหม่ 10 รุ่นภายใน 2 ปี โดยจะเปิดตัวครั้งแรกในไทยจำนวน 5 รุ่น และอีก 5 รุ่นจะเป็นการปรับโฉมใหม่แบบทั้งคัน ล่าสุดได้ทำการเปิดตัว Honda MSX125SF สปอร์ตมินิไบค์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย-ดุดัน –คล่องตัว เครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 125 ซีซี.ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีสวิตช์สำหรับเปิด-ปิดเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย ดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเข้าชุดกับล้อแม็กสีดำและยางหน้ากว้างพิเศษ มีให้เลือกทั้งสิ้น 4 สี สนนราคา 7.05 หมื่นบาท

"รถรุ่นนี้ถือเป็นรถประเภทมูลค่าเพิ่ม หรือ Value-Added Product ถือเป็นรุ่นแรกของปี โดยราคาของรุ่นใหม่จะแตกต่างจากรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ประมาณ 2 พันบาทและบริษัทตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 1.1 แสนคันต่อปี ส่วนในโมเดลเดิมก็ยังคงจำหน่ายและคาดว่า จะมียอดขาย 4 หมื่นคัน ทำให้ยอดขายรวมของ Honda MSX ในปีนี้จะมีกว่า 1.5 แสนคัน"

นายนางาตะกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากกลยุทธ์หลัก 3 ข้อแล้ว บริษัทยังมีการแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ เริ่มตั้งแต่ ดร.อรรณพ พรประภา จากตำแหน่งเดิม รองประธานกรรมการบริหาร สำหรับตำแหน่งใหม่ คือ ประธาน ( Chairman ), นายอารักษ์ พรประภา ตำแหน่งเดิม คือ กรรมการบริหาร ส่วนตำแหน่งใหม่ คือ รองประธานกรรมการบริหาร (Vice president) และ 3. นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ ตำแหน่งเดิม คือ กรรมการบริหาร ตำแหน่งใหม่เป็นรองประธานกรรมการบริหาร (Vice president ) โดยตำแหน่งใหม่จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 เมษายน 2559

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปีที่ผ่านมามียอดขาย 1.68 ล้านคัน ลดลงประมาณ 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น โดยฮอนด้าทำยอดขายได้ 1.35 ล้านคัน ขณะที่เป้าหมายการขายในปี 2559 ของฮอนด้าคาดว่า จะมีตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วยยอด 1.35 ล้านคัน ส่วนตลาดรวมคาดว่า จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยคือ 1.7 ล้านคัน

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อตลาดในปีนี้ คือ การลงทุนจากภาครัฐฯ ที่เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยด้านราคาพืชผล, ภัยแล้ง, ราคาน้ำมันหรือค่าเงินที่ผันผวนในต่างประเทศมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย โดยบริษัทยังมั่นใจว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะยังคงเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

"ปัจจัยเสี่ยงเรื่องน้ำอาจส่งผลต่อภาคเกษตรกรรม แต่ด้วยมาตรการรับมือของรัฐบาลที่ค่อนข้างรวดเร็วและการเติบโตในภาคธุรกิจท่องเที่ยว คาดว่า จะช่วยผลักดันให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นเล็กน้อย และน่าจะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน และฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ไว้ที่ 1.35 ล้านคัน"

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดที่มีแนวโน้มเติบโต คือ เซกเมนต์บิ๊กไบค์ โดยในปีที่ผ่านมาฮอนด้ามียอดขาย 6.9 พันคัน เติบโต 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนตลาดรวมบิ๊กไบค์มียอดขาย 1.98 หมื่นคัน เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่เป้าหมายยอดขายบิ๊กไบค์ในปีนี้ คาดว่า ฮอนด้าจะทำได้ 1 หมื่นคัน ส่วนตลาดรวมบิ๊กไบค์คาดว่า จะมีการขาย 2.5 หมื่นคัน

"ตลาดรถบิ๊กไบค์มีฐานผู้ซื้อเป็นคนเมืองที่มีรายได้สูงทำให้ยอดขายยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยฮอนด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่อันดับ 1 กว่า 30% อันดับ 2 คาวาซากิ ประมาณ 20% และอันดับ 3 ดูคาติ ประมาณ 10 % โดยแผนงานในปีนี้นอกเหนือจากขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมแล้ว ในส่วนของรถรุ่นใหม่ก็จะยังคงเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,134 วันที่ 25 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559