บลจ.กสิกรไทย เปิดขาย K-VIETNAM ลงตรงหุ้นเวียดนาม ฉวยจังวะเศรษฐกิจโต คาดทั้งปีขยายตัว 6.7-6.8% สูงสุดในอาเซียน
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัดเปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 – 22 ตุลาคม บริษัทจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เวียดนาม หุ้นทุน (K-VIETNAM) เพื่อลงทุนตรงในหุ้นเวียดนามที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ รวมถึงการเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ของโลก โดยลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท
ทั้งนี้จุดเด่นของกองทุน K-VIETNAM คือ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมบริหารจัดการลงทุน ที่ได้ทำการศึกษา วิเคราะห์และลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในประเทศเวียดนามแบบ Bottom-Up มาตั้งแต่เริ่มขยายขอบเขตการลงทุนโดยตรงครอบคลุมไปถึงประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนตั้งแต่ปลายปี 2556 ซึ่งปัจจุบันมีทีมผู้จัดการลงทุนและนักวิเคราะห์ 9 คนที่ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาและวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนในประเทศเวียดนาม โดยแบ่งตามความเชี่ยวชาญในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมและประเทศ ด้วยการไป Company Visit ในพื้นที่จริงและเข้าพบผู้บริหารอย่างสม่ำเสมอ
“ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP จะเติบโตในระดับ 6.7% - 6.8% ไปจนถึงปี 2563 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม ASEAN Emerging Market ทั้งนี้เนื่องจากเวียดนามมีโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันในระดับภูมิภาค ซึ่งภาคส่งออกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าเงินเวียดนามด่อง (VND) มีเสถียรภาพมากขึ้น”
ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตสูง จากนโยบายภาครัฐที่มีความพยายามปฏิรูปตลาดทุนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงมีแผนปรับลดสัดส่วนการถือครองรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่โดยโอนกิจการของรัฐไปเป็นของเอกชน ผ่านการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดทุน ทั้งนี้คาดว่าเวียดนามจะเข้าสู่การเป็นสมาชิกตลาดประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) ในปี 2563 ส่งผลให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการมีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อาจเกิดแรงเทขายหุ้นในช่วงที่ตลาดมี sentiment เชิงลบ อีกทั้งค่าเงินเวียดนามด่อง อาจมีความผันผวนในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก