"สิ่งทอ-ชิ้นส่วนรถยนต์" ผวา! หวั่นกฎใหม่ USMCA ทุบส่งออก 1.2 แสนล้าน
2 กลุ่มสินค้าใหญ่ "รถยนต์และชิ้นส่วน สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม" จับตาข้อตกลงใหม่ USMCA เปลี่ยนกฎแหล่งกำเนิดสินค้า มุ่งเป้าตีกันสินค้าจีน ผวากระทบชิ่งส่งออกไทย 1.25 แสนล้าน เร่งหาตลาดใหม่รองรับ
จากที่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา ได้บรรลุในหลักการข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่ ที่เรียกว่า USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) จะเข้ามาแทนที่ความตกลงเขตการค้าเสรีแห่งอเมริกาเหนือ หรือ นาฟต้า ทั้งนี้ คาดสมาชิกทั้ง 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา จะลงนามข้อตกลงในเดือน พ.ย. นี้ และนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภาประมาณต้นปี 2562 และคาดข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2563
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้ระบุประเด็นสำคัญของความตกลงใหม่ที่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นต่อสินค้าของสหรัฐฯ และจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ใน 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ว่าด้วยเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้าที่ได้เพิ่มสัดส่วนของชิ้นส่วนที่นำมาใช้ในการผลิตเป็น 75% จากเดิม 62.5% จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งจะส่งผลต่อการนำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบจากแหล่งนำเข้าทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งไทยที่มีการส่งออกอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ไปสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องยนต์และส่วนประกอบ เพลาขับ คอมเพรสเซอร์ ปั๊มหัวฉีด พวงมาลัยและส่วนประกอบ ชุดสายไฟรถยนต์ อุปกรณ์สัญญาณไฟ ส่วนประกอบตัวถัง และวิทยุ/เครื่องเสียงติดรถยนต์
2.ข้อกำหนดสินค้าสิ่งทอภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ มีข้อบังคับที่เข้มแข็งกว่าข้อบังคับของนาฟต้า ทั้งในด้านการบังคับใช้และการจูงใจในการผลิตสิ่งทอในอเมริกาเหนือ ช่วยให้มีการใช้เส้นดาย เส้นใย และผ้าผืนในกลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบทบัญญัติกำหนดให้ต้องมีการใช้ด้ายเย็บผ้า การใส่กระเป๋า การติดแถบยางยืด และแถบผ้าเคลือบไปกับสิ่งทอหรือเครื่องนุ่งห่มสำเร็จรูปที่ผลิตในประเทศสมาชิก เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าไทย-สหรัฐฯ และกระทบต่อการลดการนำเข้าจากไทยได้
ต่อเรื่องดังกล่าว นายปริญญา เขตคาม รองอุปนายกฝ่ายเศรษฐกิจและภาษี สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จะมีผลต่อการลดการนำเข้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนยานยนต์ของกลุ่ม USMCA จากไทย รวมถึงจากประเทศนอกกลุ่มอย่างแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนอุปกรณ์จากบริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ในรูปแบบหรือดีไซน์ของลูกค้า ส่วนที่ผลิตในรูปแบบหรือดีไซน์ของตัวเองยังสามารถหาตลาดใหม่ทดแทนหรือเพิ่มเติมได้
"เป้าหมายใหญ่ของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ เพื่อลดการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนลง และให้ภาคีสมาชิก คือ เม็กซิโกและแคนาดา หันมานำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ ก็มีทั้งที่ต้นทุนสูงและไม่สูง แต่ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ หรือ ในเม็กซิโก ไม่ซื้อจากในประเทศสมาชิก เพราะมีพาร์ตเนอร์อยู่แล้ว เช่น ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ไปตั้งฐานในเม็กซิโกก็จะซื้อชิ้นส่วนอุปกรณ์จากญี่ปุ่นเป็นหลัก หรือ ซื้อจากที่อื่น หากราคาถูกกว่าและทำราคารถยนต์ได้ถูกกว่า"
ด้าน นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า เบื้องต้น คงกระทบกับการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยบ้าง แต่คงไม่มาก เพราะข้อบังคับใหม่ของ USMCA ไม่ต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งปัจจุบัน เสื้อผ้าหลักที่เม็กซิโกส่งออกเข้าสหรัฐฯ จะเป็นเสื้อ-กางเกงยีนส์ รวมถึงเสื้อคอกลมและเสื้อโปโลเป็นหลัก ขณะที่ การนำเข้าเสื้อผ้าจากไทยของสหรัฐฯ จะเป็นไอเทมเสื้อผ้ากีฬา ชุดชั้นในชาย-หญิง และเสื้อผ้าเด็ก ซึ่งใช้ด้ายและเส้นใยคนละอย่างกัน อย่างไรก็ดี คงต้องจับตาใกล้ชิดและต้องหาตลาดใหม่เพิ่มเติม
จากการตรวจสอบข้อมูลในปี 2560 ไทยมีการส่งออกสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ไปตลาดสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา รวม 125,917.94 ล้านบาท
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,409 วันที่ 14 - 17 ตุลาคม 2561
จากที่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา ได้บรรลุในหลักการข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่ ที่เรียกว่า USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) จะเข้ามาแทนที่ความตกลงเขตการค้าเสรีแห่งอเมริกาเหนือ หรือ นาฟต้า ทั้งนี้ คาดสมาชิกทั้ง 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา จะลงนามข้อตกลงในเดือน พ.ย. นี้ และนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภาประมาณต้นปี 2562 และคาดข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2563
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้ระบุประเด็นสำคัญของความตกลงใหม่ที่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นต่อสินค้าของสหรัฐฯ และจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ใน 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ว่าด้วยเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้าที่ได้เพิ่มสัดส่วนของชิ้นส่วนที่นำมาใช้ในการผลิตเป็น 75% จากเดิม 62.5% จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งจะส่งผลต่อการนำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบจากแหล่งนำเข้าทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งไทยที่มีการส่งออกอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ไปสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องยนต์และส่วนประกอบ เพลาขับ คอมเพรสเซอร์ ปั๊มหัวฉีด พวงมาลัยและส่วนประกอบ ชุดสายไฟรถยนต์ อุปกรณ์สัญญาณไฟ ส่วนประกอบตัวถัง และวิทยุ/เครื่องเสียงติดรถยนต์
2.ข้อกำหนดสินค้าสิ่งทอภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ มีข้อบังคับที่เข้มแข็งกว่าข้อบังคับของนาฟต้า ทั้งในด้านการบังคับใช้และการจูงใจในการผลิตสิ่งทอในอเมริกาเหนือ ช่วยให้มีการใช้เส้นดาย เส้นใย และผ้าผืนในกลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบทบัญญัติกำหนดให้ต้องมีการใช้ด้ายเย็บผ้า การใส่กระเป๋า การติดแถบยางยืด และแถบผ้าเคลือบไปกับสิ่งทอหรือเครื่องนุ่งห่มสำเร็จรูปที่ผลิตในประเทศสมาชิก เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าไทย-สหรัฐฯ และกระทบต่อการลดการนำเข้าจากไทยได้
ต่อเรื่องดังกล่าว นายปริญญา เขตคาม รองอุปนายกฝ่ายเศรษฐกิจและภาษี สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จะมีผลต่อการลดการนำเข้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนยานยนต์ของกลุ่ม USMCA จากไทย รวมถึงจากประเทศนอกกลุ่มอย่างแน่นอน เฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนอุปกรณ์จากบริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ในรูปแบบหรือดีไซน์ของลูกค้า ส่วนที่ผลิตในรูปแบบหรือดีไซน์ของตัวเองยังสามารถหาตลาดใหม่ทดแทนหรือเพิ่มเติมได้
"เป้าหมายใหญ่ของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ เพื่อลดการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนลง และให้ภาคีสมาชิก คือ เม็กซิโกและแคนาดา หันมานำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ ก็มีทั้งที่ต้นทุนสูงและไม่สูง แต่ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ หรือ ในเม็กซิโก ไม่ซื้อจากในประเทศสมาชิก เพราะมีพาร์ตเนอร์อยู่แล้ว เช่น ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ไปตั้งฐานในเม็กซิโกก็จะซื้อชิ้นส่วนอุปกรณ์จากญี่ปุ่นเป็นหลัก หรือ ซื้อจากที่อื่น หากราคาถูกกว่าและทำราคารถยนต์ได้ถูกกว่า"
ด้าน นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า เบื้องต้น คงกระทบกับการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยบ้าง แต่คงไม่มาก เพราะข้อบังคับใหม่ของ USMCA ไม่ต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งปัจจุบัน เสื้อผ้าหลักที่เม็กซิโกส่งออกเข้าสหรัฐฯ จะเป็นเสื้อ-กางเกงยีนส์ รวมถึงเสื้อคอกลมและเสื้อโปโลเป็นหลัก ขณะที่ การนำเข้าเสื้อผ้าจากไทยของสหรัฐฯ จะเป็นไอเทมเสื้อผ้ากีฬา ชุดชั้นในชาย-หญิง และเสื้อผ้าเด็ก ซึ่งใช้ด้ายและเส้นใยคนละอย่างกัน อย่างไรก็ดี คงต้องจับตาใกล้ชิดและต้องหาตลาดใหม่เพิ่มเติม
จากการตรวจสอบข้อมูลในปี 2560 ไทยมีการส่งออกสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ไปตลาดสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา รวม 125,917.94 ล้านบาท
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,409 วันที่ 14 - 17 ตุลาคม 2561
