"3 โรงเรียน" จ่อขายหุ้น! มุ่งหากำไรตามรอย SISB - ปชป. ยื่นศาลปกครองระงับเทรด
รมว.ศธ. ยกเรื่อง "จริยธรรม" ชี้! ธุรกิจโรงเรียนได้รับยกเว้นภาษี แต่เข้าตลาดหุ้นมุ่งแสวงหากำไร ... "ก.ล.ต. - ตลาดหลักทรัพย์ฯ" ยัน! ไฟเขียวโรงเรียนระดมทุนได้โบรกเกอร์ เผย มีอีก 2-3 โรงเรียน จ่อคิวเข้าตลาด รอดูความชัดเจนกรณี SISB
หุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ SISB หุ้นการศึกษาตัวแรกที่เข้าเทรดในตลาด ท่ามกลางปัญหาที่ยังไม่สะเด็ดนํ้า ทั้งกรณีที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ ก.ล.ต. ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ SISB โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจโรงเรียนได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อยู่แล้ว การเปิดทางให้สามารถระดมทุนในตลาดหุ้นได้ จะเป็นจุดริเริ่มให้เกิดการแสวงหากำไร
สอดคล้องกับ น.พ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มองว่า การระดมทุนในตลาดหุ้นแม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องดูเรื่องจริยธรรม ว่า ถูกต้องหรือไม่ที่ธุรกิจที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ยังไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ได้กำไร
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตประดับ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านเด็กและเยาวชน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเป็นห่วงว่า หาก ก.ล.ต. อนุญาตให้สถาบันการศึกษาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ธุรกิจมุ่งแสวงหากำไร เชื่อมโยงถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรมจะลดลงตาม นำไปสู่ความเหลื่อมลํ้าของไทยให้ยิ่งกว้างขึ้น
ปฏิกิริยาสังคมที่คัดค้านส่วนหนึ่ง ทำให้หุ้น SISB เปิดการซื้อขายวันแรก ราคาตํ่ากว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาท โดยปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 4.36 บาท หรือ ตํ่ากว่าจอง 16.15% ก่อนจะปรับขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. 2561 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42 บาท (เวลา 14.40 น.)
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัสฯ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดหุ้นของ SISB ยอมรับสาเหตุที่หุ้น SISB ซื้อขายตํ่ากว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาทนั้น มาจากกระแสข่าวเชิงลบและหนักสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้มีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทไหนเจอกระแสแบบนี้ก็ต้องหวั่นไหว โดยไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นแพงและพี/อีสูง และในแง่ของพื้นฐานบริษัทยังคงดี อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่จะพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้นนั้น ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์
นายสมภพ ระบุว่า ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติที่สนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก แต่ต้องรอดูสถานการณ์และความชัดเจนของกรณี SISB ก่อน
ด้าน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีนี้ ว่า ก.ล.ต. ได้หารือและส่งหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลและกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาของโรงเรียนเอกชน (Lead Regulator) ว่า SISB สามารถดำเนินการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ได้หรือไม่ และในวันที่ 24 ต.ค. 2561 สช. มีหนังสือตอบ ก.ล.ต. ว่า ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ไม่มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดในการดำเนินการดังกล่าว อีกทั้งในการหารือ สช. ก็มิได้เคยปรากฏว่า สช. มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการที่ SISB จะออกและเสนอขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อ ก.ล.ต. ได้พิจารณาคุณสมบัติและพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลของ SISB ตามกฎเกณฑ์ภายใต้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ แล้ว พบว่า SISB มีคุณสมบัติตามที่กำหนด จึงไม่มีเหตุที่ ก.ล.ต. จะปฏิเสธคำขอของ SISB ได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณีที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ ก.ล.ต. ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ SISB นั้น ทาง ตลท. อยู่ระหว่างรอข้อมูลใหม่จากหน่วยงานกำกับที่จะสั่งกลับมา จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลใหม่ โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่า ตลท. มีการดำเนินงานตามกฎระเบียบต่าง ๆ มาตลอด ซึ่งการที่จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่ได้เห็นเรื่องนี้ ก.ล.ต. กับตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้พิจารณา ถ้า ก.ล.ต. อนุมัติให้ทำ แสดงว่า ไม่ใช่ธุรกิจต้องห้ามที่จะเป็นบริษัทมหาชน ระดมทุนจากสาธารณชนได้
ประเด็นภาษีที่ยกเว้น เพราะรัฐบาลส่งเสริมการศึกษาไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ควรได้รับการส่งเสริมเท่ากัน ถ้าเป็นกิจกรรมเดียวกัน ส่วนที่ว่าจะเกิด 2 มาตรฐาน ในบริษัทจดทะเบียนหรือไม่ ที่บริษัทอื่นต้องเสียภาษี แต่โรงเรียนไม่ต้องเสียภาษี นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า มันคนละเรื่องกัน ถ้าบริษัทไหนอยากได้สิทธิภาษีก็มาสอนหนังสือ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ซึ่งก็มีการเปิดโรงเรียนนานาชาติเยอะแยะ ที่ดีก็มีลูกค้า ไม่มีก็ปิดกิจการไป คนลงทุนซื้อหุ้นก็ต้องดูโอกาสว่าเป็นไปได้มั้ย ถ้ามองว่าไม่ดี ก็ไม่ต้องไปซื้อหุ้น ก็แค่นั้น
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,423 วันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
หุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ SISB หุ้นการศึกษาตัวแรกที่เข้าเทรดในตลาด ท่ามกลางปัญหาที่ยังไม่สะเด็ดนํ้า ทั้งกรณีที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ ก.ล.ต. ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ SISB โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจโรงเรียนได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อยู่แล้ว การเปิดทางให้สามารถระดมทุนในตลาดหุ้นได้ จะเป็นจุดริเริ่มให้เกิดการแสวงหากำไร
สอดคล้องกับ น.พ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มองว่า การระดมทุนในตลาดหุ้นแม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องดูเรื่องจริยธรรม ว่า ถูกต้องหรือไม่ที่ธุรกิจที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ยังไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ได้กำไร
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตประดับ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านเด็กและเยาวชน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเป็นห่วงว่า หาก ก.ล.ต. อนุญาตให้สถาบันการศึกษาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ธุรกิจมุ่งแสวงหากำไร เชื่อมโยงถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรมจะลดลงตาม นำไปสู่ความเหลื่อมลํ้าของไทยให้ยิ่งกว้างขึ้น
ปฏิกิริยาสังคมที่คัดค้านส่วนหนึ่ง ทำให้หุ้น SISB เปิดการซื้อขายวันแรก ราคาตํ่ากว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาท โดยปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 4.36 บาท หรือ ตํ่ากว่าจอง 16.15% ก่อนจะปรับขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. 2561 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42 บาท (เวลา 14.40 น.)
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัสฯ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดหุ้นของ SISB ยอมรับสาเหตุที่หุ้น SISB ซื้อขายตํ่ากว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาทนั้น มาจากกระแสข่าวเชิงลบและหนักสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้มีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทไหนเจอกระแสแบบนี้ก็ต้องหวั่นไหว โดยไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นแพงและพี/อีสูง และในแง่ของพื้นฐานบริษัทยังคงดี อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่จะพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้นนั้น ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์
นายสมภพ ระบุว่า ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติที่สนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก แต่ต้องรอดูสถานการณ์และความชัดเจนของกรณี SISB ก่อน
ด้าน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีนี้ ว่า ก.ล.ต. ได้หารือและส่งหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลและกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาของโรงเรียนเอกชน (Lead Regulator) ว่า SISB สามารถดำเนินการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ได้หรือไม่ และในวันที่ 24 ต.ค. 2561 สช. มีหนังสือตอบ ก.ล.ต. ว่า ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ไม่มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดในการดำเนินการดังกล่าว อีกทั้งในการหารือ สช. ก็มิได้เคยปรากฏว่า สช. มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการที่ SISB จะออกและเสนอขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อ ก.ล.ต. ได้พิจารณาคุณสมบัติและพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลของ SISB ตามกฎเกณฑ์ภายใต้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ แล้ว พบว่า SISB มีคุณสมบัติตามที่กำหนด จึงไม่มีเหตุที่ ก.ล.ต. จะปฏิเสธคำขอของ SISB ได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณีที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ ก.ล.ต. ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ SISB นั้น ทาง ตลท. อยู่ระหว่างรอข้อมูลใหม่จากหน่วยงานกำกับที่จะสั่งกลับมา จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลใหม่ โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่า ตลท. มีการดำเนินงานตามกฎระเบียบต่าง ๆ มาตลอด ซึ่งการที่จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่ได้เห็นเรื่องนี้ ก.ล.ต. กับตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้พิจารณา ถ้า ก.ล.ต. อนุมัติให้ทำ แสดงว่า ไม่ใช่ธุรกิจต้องห้ามที่จะเป็นบริษัทมหาชน ระดมทุนจากสาธารณชนได้
ประเด็นภาษีที่ยกเว้น เพราะรัฐบาลส่งเสริมการศึกษาไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ควรได้รับการส่งเสริมเท่ากัน ถ้าเป็นกิจกรรมเดียวกัน ส่วนที่ว่าจะเกิด 2 มาตรฐาน ในบริษัทจดทะเบียนหรือไม่ ที่บริษัทอื่นต้องเสียภาษี แต่โรงเรียนไม่ต้องเสียภาษี นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า มันคนละเรื่องกัน ถ้าบริษัทไหนอยากได้สิทธิภาษีก็มาสอนหนังสือ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ซึ่งก็มีการเปิดโรงเรียนนานาชาติเยอะแยะ ที่ดีก็มีลูกค้า ไม่มีก็ปิดกิจการไป คนลงทุนซื้อหุ้นก็ต้องดูโอกาสว่าเป็นไปได้มั้ย ถ้ามองว่าไม่ดี ก็ไม่ต้องไปซื้อหุ้น ก็แค่นั้น
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,423 วันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
