ชิงเดือด 'รามคำแหง' !! ซัพพลายคอนโดฯ ทะลัก บิ๊กเนมไทยตั้งรับทุนฮ่องกง

14 ธ.ค. 2561 | 03:13 น.
ทำเลรามคำแหงร้อนฉ่า! บิ๊กเนมไทยวิ่งสู้ฟัด ชิงลูกค้าคอนโดมิเนียมหืดจับ หลังทุนยักษ์ฮ่องกง 'ไรส์แลนด์' ประกาศปักหมุดคอนโดมิเนียม 2,600 หน่วย สถานีอินเตอร์ เชนจ์ ลำสาลี ขณะ 'เสนา' ระบุ "เรดโอเชียน" ศุภาลัยไร้ปัญหา ขายแล้ว 1,500 หน่วย

นอกจากสุขุมวิท-รัชดาฯ แล้ว จีนยังหันมานิยมคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ โดยเฉพาะรามคำแหง โซนตะวันออกกรุงเทพมหานคร หลังทุนยักษ์ฮ่องกง "ไรส์แลนด์ ประเทศไทย" ประกาศเปิดตัวคอนโดมิเนียมติดสถานีอินเตอร์เชนจ์ สำสาลี ของรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเหลือง มากถึง 2,600 หน่วย ในปี 2562 พร้อมทั้งตอกยํ้าอีกว่า นอกจากจะขายให้ลูกค้าชาติเดียวกันแล้ว ยังเน้นขายลูกค้าคนไทยอีกด้วย ประเมินได้ว่า ทำเลนี้ "ร้อนฉ่า" แน่


MP29-3426-A

นายศรายุธ เล็กผลิผล หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม บริษัท ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทำเลรามคำแหงแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันอออก) มีศักยภาพสูง อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับโครงการอาร์ติซาน รัชดา สมาร์ทไลฟ์ ทำเลรัชดาฯ ไชน่าทาวน์ 2 ทั้งนี้ โครงการรามคำแหงจะอยู่ไม่ห่างจากศุภาลัยและพฤกษา โดยค่อนไปทางสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า มูลค่าลงทุน 10,000 ล้านบาท

ขณะมุมมองดีเวลอปเปอร์ไทย นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย สะท้อนว่า คอนโดมิเนียมของศุภาลัยเหลือเฟสที่จะเปิดขายเพื่อปรับราคาใหม่จำนวนไม่มาก คาดว่าจะปิดโครงการได้ทั้งหมดปีหน้า ส่วนปัจจุบันขายแล้ว 75% หรือ 1,500 หน่วย จากทั้งหมด 2,000 หน่วยเศษ ๆ แสดงให้เห็นว่า ลูกค้าให้ความสนใจ เนื่องจากราคาไม่แพง เพียง 1 ล้านบาทปลาย ๆ อีกทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งแหล่งช็อปปิ้งในโครงการและความปลอดภัย ส่วนทำเลนอกจากติดสถานีรถไฟฟ้าหัวหมากแล้ว ยังเข้าออกได้ 2 เส้นทาง รองรับกลุ่มลูกค้าสถาบันการศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหงและเอแบค

สำหรับค่ายใหม่ที่เข้ามาทั้งไทยหรือว่าทุนฮ่องกง ประเมินว่า สามารถพัฒนาได้ ไม่ปิดกั้น แต่สำหรับศุภาลัยแล้วไม่กระทบ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นโครงการน่าจะปิดการขายไปก่อนแล้ว

ขณะนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) สะท้อนว่า ทำเลรามคำแหงแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) แข่งขันรุนแรง หรือเรียกว่า "เรดโอเชียน" เนื่องจากมีซัพพลายมากกว่าความต้องการ แต่ละค่ายขึ้นโครงการเพราะต้องการขยายทำเลใหม่ กลับกันหากบริษัทไม่เข้าสู่สนามนี้ เกรงว่าจะเสียโอกาส

"ยอมรับว่า แข่งรุนแรงมากสำหรับทำเลรามคำแหง ซึ่งอนาคตหากระบายไม่ทัน เกรงว่าจะซํ้ารอยคอนโดมิเนียมรถไฟฟ้าสายสีม่วง"

ทั้งนี้ จากข้อมูลฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า จากข้อมูลพบว่า คอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายย่านรามคำแหงส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาทต่อหน่วยมากที่สุด จำนวน 1,194 หน่วย รองลงมาคือ ระดับราคา 2.5-3 ล้านบาท ประมาณ 1,033 หน่วย และระดับราคา 2.25-2.55 ล้านบาทต่อหน่วย ประมาณ 762 หน่วย

อย่างไรก็ดี ช่วงระดับราคา 2.25-2.5 ล้านบาทต่อหน่วย เป็นราคาที่ขายดีที่สุด รองลงมา คือ ระดับราคา 2.5-3 ล้านบาทต่อหน่วย เป็นต้น

สำหรับรามคำแหงยังเป็นทำเลที่ราคาขายของคอนโดมิเนียมมีการปรับขึ้นมากถึง 80% จากราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่อยู่ประมาณ 50,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบัน ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในย่านรามคำแหงจะอยู่ที่ประมาณ 90,000 บาทต่อตารางเมตร สำหรับราคาที่ดินในย่านรามคำแหงหลังจากที่รถไฟฟ้าเริ่มสร้างตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็มีการปรับขึ้นราคาเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน ราคาขายของที่ดินย่านรามคำแหงติดถนนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 250,000-300,000 บาทต่อตารางวา และที่ดินในซอยจะอยู่ที่ประมาณ 120,000-160,000 บาทต่อตารางวา

หน้า 29-30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,426 วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561

595959859-6-503x60