กรุงไทยคาดจีดีพีปีหมูโต 4.1% อานิสงส์อีอีซีหนุนลงทุนรัฐ-เอกชนขยับ

15 ม.ค. 2562 | 10:54 น.
Krungthai Macro Research คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่อเนื่องที่ 4.1% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 4.3% เหตุส่งออกหดเหลือโต 4% จาก 7% ท่องเที่ยวขยายตัว 4.5% ชี้การลงทุนเอกชน-ภาครัฐหนุนจีดีพีโต อานิสงส์โครงการอีอีซี จับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ แนะภาคธุรกิจบริหารความเสี่ยงพร้อมปรับตัวในยุค Disruption

322851 นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า Krungthai Macro Research คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4.1% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 4.3% ในปีก่อน ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเปลี่ยนจากการส่งออก และการท่องเที่ยว เป็นการลงทุนเอกชนและภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นในช่วงหลังของปี จากโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่มีเม็ดเงินลงทุนราว 6.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 32% และภาคเอกชน 68% นอกจากนี้ มาตรการดูแลเศรษฐกิจฐานรากของภาครัฐ จะช่วยเสริมกำลังซื้อของภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ดี ประเมินความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ความเสี่ยงจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นยังมีอยู่ เนื่องจากอัตราภาษีอาจเพิ่มเป็น 25% หากสหรัฐฯ และจีนยังไม่สามารถเจรจากันได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะมีผลกระทบสินค้าจีนเพิ่มขึ้นมูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์ โดยผู้ประกอบการไทยอาจได้รับผลกระทบทั้งจากส่วนต่างของราคา (Margin) ที่ลดลง เนื่องจากโดนบีบจากผู้ผลิตปลายทางที่จีน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น

595959859 นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าภาคการผลิตจะชะลอตัวถึงไตรมาส 1 ปี 2562 เป็นอย่างน้อย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของภาคการส่งออกของไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นประมาณ 12% ของตลาดส่งออกทั้งหมด และมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศทั้งหมด จะเห็นว่าทั้ง 2 กิจกรรมชะลอตัวลงค่อนข้างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2561

ทั้งนี้ มองการเติบโตของภาคการส่งออกในปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ 4% จากปีก่อนอยู่ที่ 7% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 4.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 7.5% โดยมองกรอบค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีก่อนค่าเงินบาทปิดอยู่ที่ระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

“เรามองจีดีพีปีนี้น่าจะโตได้ 4.1% ชะลอจากปีก่อน โดยแรงขับเคลื่อน 2 ตัวหลัก คือ การส่งออกและท่องเที่ยวแผ่วลง ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่ปีนี้จะมีเรื่องการลงทุนเข้ามาช่วย”

ดร.กิตติพงษ์ เรือนทิพย์ รองผู้อำนวยการฝ่าย สายงาน Global Business Development and Strategy กล่าวว่า ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งสู่ระดับ 2% การบังคับใช้มาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนเมษายน และการหมดอายุของสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวม LTF เป็นต้น

แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตได้ดีอยู่ แต่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับภาคธุรกิจ Krungthai Macro Research แนะนำให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องของสภาพคล่องทางการเงิน ในภาวะที่กำลังซื้อจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น นอกจากนี้ หลายธุรกิจจะพบกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี จึงจำเป็นต้องมีแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคของ technological disruption อีกด้วย

[caption id="attachment_374628" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]