ทุนใหญ่บูม "เครื่องใช้ไฟฟ้า" พาเหรดติดอาวุธ "IoT-AI" ชิงตลาด 7.3 หมื่นล้าน

30 ม.ค. 2562 | 10:40 น.
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 7.3 หมื่นล้านคึก แบรนด์ดังพาเหรดขนฟีเจอร์ IoT-AI ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มั่นใจกำลังซื้อคึกคัก หลังเลือกตั้ง ขณะที่ เมกะโปรเจ็กต์ ท่องเที่ยวปลุกมู้ดฟื้น

119904


แม้ปีที่ผ่านมา ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยจะไม่คึกคักเท่าไรนัก เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่ชะลอตัว บวกกับสภาพอากาศที่ผันผวน ส่งผลกระทบไปยังกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในหลายเซ็กเมนต์ ทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลม แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2562 ผู้ประกอบการหลายรายต่างเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า จากปัจจัยบวกทั้งในเรื่องของการเลือกตั้ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น กอปรกับการเข้ามาของกลุ่มสมาร์ทโฮม หรือ เทคโนโลยี IoT และ AI ที่ถูกนำมาพัฒนาเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายต่างมองว่า น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมูลค่ากว่า 7.3 หมื่นล้านบาท ดีดตัวกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยต่างทยอยเปิดแผนงานเพื่อรับการเติบโตดังกล่าว




119900



นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)ฯ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า "แอลจี" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นโยบายของแอลจีนับจากนี้จะมุ่งพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ การเข้ามาของเทคโนโลยีไอที หรือ IoT ทำให้มีผลต่อการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าทีวีที่ IoT เข้ามามีผลต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมออกสู่ตลาดในการรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต, การควบคุมผ่านแอพพลิเคชันต่าง ๆ ผ่านมือถือ รวมไปถึงการเชื่อมต่อไว-ไฟ เป็นต้น




mp32-3439-a

"แนวโน้มสินค้าที่นวัตกรรม IoT เข้าไปมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน สินค้ากลุ่มนี้ยังมีจำนวนน้อยอยู่และส่วนใหญ่อยู่ในตลาดระดับกลาง-บนมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาด ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 3% ที่เป็นสินค้า IoT ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จากปีที่ผ่านมาที่มีไม่ถึง 1%"

ฟังก์ชันที่ตอบโจกย์ IoT และมีฟีเจอร์ของ AI กลายเป็นโจทย์ที่น่าจับตามอง ซึ่งนอกจากจะโดนใจคนรุ่นใหม่ได้แล้ว ยังสร้างความสะดวกสบายและลดภาระให้กับผู้ใช้ด้วย โดย นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ระบบ IoT กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อมากขึ้น โดยจะเห็นตัวอย่างได้จากผลการสำรวจของ Price Waterhouse Coopers ที่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า สำหรับประเทศไทย เทรนด์ของตลาดสมาร์ทโฮมกำลังค่อย ๆ เข้ามาจับลูกค้าที่เป็นชนชั้นกลางที่มีรายได้และมีกำลังซื้อ ล่าสุด บริษัทจึงได้พัฒนาสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮม ทั้งตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า บุกตลาดและเพื่อปลุกกระแสสมาร์ทโฮมให้สอดคล้องกับการใช้งานในยุคนี้ นอกจากนี้ พร้อมเพิ่มงบการตลาดอีก 10% จากปีที่แล้ว พร้อมจัดแคมเปญส่งเสริมการขายและโปรโมชัน และการสื่อสารการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ อีกทั้งกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย




119903

"บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มไอโอทีที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหมดให้สามารถสื่อสารกันได้ ทั้งอุปกรณ์ของซัมซุงเอง และอุปกรณ์ของพันธมิตรอื่น ๆ ในอนาคต ขณะที่ เทคโนโลยี 5G จะเข้ามาช่วยให้ทุกการเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต เร็ว แรง และไม่สะดุด รวมทั้งเทคโนโลยีเอไอ การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ อย่าง บิ๊กซ์บี้ (Bixby) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะในกลุ่มทีวี ตู้เย็น แอร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่บริษัทนำเข้ามาผสมผสานกับสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า"

ขณะที่ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีมุ่งชูฟีเจอร์ตอบโจทย์ IoT และ AI แต่ดูเหมือนคู่แข่งที่เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น อย่าง "มิตซูบิชิ" จะยังคงมุ่งไปที่การสร้างแบรนด์และบริการหลังการขายเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งสำคัญ คือ การทำหลังบ้านให้มีความพร้อม ทั้งการวางระบบบริการที่เข้าถึง รวดเร็ว และมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็นำระบบแอพพลิเคชันเข้ามาช่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้า ส่วนเรื่องของการพัฒนาสินค้าด้วยอินโนเวชันและการพัฒนาต่อเนื่อง ทำให้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นมีความลํ้าสมัย ตรงกับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นฐานสำคัญของมิตซูบิชิอยู่แล้ว


119902

ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์จีน อย่าง 'ไฮเออร์' ก็มีบทบาทมากขึ้น เพราะวันนี้ไฮเออร์ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนที่มุ่งเจาะลูกค้าในกลุ่มแมสอีกต่อไป ด้วยนวัตกรรมที่มาแรงและการสร้างแบรนด์ผนวกโพสิชันนิ่ง ทำให้วันนี้เป้าหมายสำคัญของไฮเออร์ คือ การก้าวสู่แบรนด์ระดับไฮเอนด์ ทั้งในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็นฯลฯ และดูเหมือนการวางรากฐานแบรนด์ในช่วงที่ผ่านมาจะเดินถูกทาง เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและได้รับการยอมรับมากขึ้น ส่งผลให้มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี แบรนด์จากจีนรายนี้จึงบอกได้เลยว่า ไม่ธรรมดา

ทิศทางตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่ากว่า 7.3 หมื่นล้านบาทนี้ คาดว่าจะเติบโต 4-5% ยังเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่หอมหวน ชวนให้ผู้เล่นแต่ละแบรนด์ต้องทุ่มสุดตัว โดยเฉพาะในตลาดพรีเมียม ที่ล้วนมีกำลังซื้อสูง กระเป๋าหนัก และคลั่งไฮเทคโนโลยี

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,438 ระหว่างวันที่ 27-30 มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว