ทางออกนอกตำรา : ทุนใหญ่ 'เทมาเสก-GIC' ลอยแพ 'ทักษิณ ชินวัตร'

30 ม.ค. 2562 | 13:29 น.
ลอยแพ-01 TP6-ทางออก ในสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ค่ายคูประตูหอรบทางการเมืองกำลังเดินไปสู่ “ทาง 2 แพร่ง” มิใช่ “3 แพร่ง” อย่างที่หลายคนคิด

“แพร่งนรา” น่าจะอยู่ในอุ้งมือ นายกฯลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แอนด์ พรรคพลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา-รวมพลังประชาชาติไทย โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี พ่อมาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรค เป็นตัวแปรสำคัญ

“แพร่งสรรพเพื่อ” ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย-พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ-พรรคประชาชาติ-พรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังปลุกปั้น “คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เป็นผู้ท้าชิง “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30”

แถมมีกลยุทธ์เด็ดเล็ดลอดออกมาว่า “ถ้าชนะเสียงข้างมาก แต่ไม่อาจฝ่าด่านอรหันต์ อาจมีการกดปุ่มยกมือสนับสนุน “พ่อมาร์ค” เป็นนายกฯคนที่ 30 เพื่อยืมมือประชาธิปัตย์ผลักดันทหารกลับสู่กรมกองโดยไม่ต้องออกแรง เป็นยุทธการ “ยืมดาบฆ่าคน” ของนายใหญ่แดนไกล

การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเปี่ยมไปด้วยยุทธวิธีและลีลา ที่มิอาจคาดเดา...

ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องใช้สติปัญญาตัดสินใจ “เลือกคน เลือกพรรคการเมือง” เพื่อมานำพาประเทศ

ขณะที่กลุ่มทุนใหญ่ทั้งในและนอกประเทศก็เลือกข้าง เพื่อจะได้ทำมาหากินอย่างสะดวกโยธิน และมี “แต้มต่อ” โดยไม่ต้องงอนง้อใคร...

ทำเป็นเล่นไป 3-6 เดือนที่ผ่านมา “ทุนใหญ่ที่อิงแอบกับการเมืองเล่นบทส 2 หน้า” เปลี่ยนขั้วสลับฉากกันเดินเกม ทั้งในทางตรงทางอ้อม ชนิดที่ผู้สร้างละครยังคิดไม่ถึง กลุ่มทุนใดที่มึนตึงสลบเหมือด...ถูกเชือดให้ลิงดู...เป็นระยะ...

ผมขออนุญาตพาทุกท่านมาติดตามเรื่องราวอัศจรรย์พันลึกในทางธุรกิจ 2-3 ปรากฏการณ์ ดูเผินๆ อาจไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ความจริง “มีนัยซ่อนเร้นเต็มไปหมด”

องค์แรก...เป็นเรื่องของกองทุนเทมาเสก โฮลดิงส์ และ กองทุน GIC: Government of Singapore Investment Corporation ของรัฐบาลสิงคโปร์มูลค่า 17-18 ล้านล้านบาท ผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ (สิงเทล) บริษัท ท่าอากาศยานไทย บริษัท ชินคอร์ปฯ บริษัท ไทยคมฯ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ ฯลฯ และบริษัทจดทะเบียนไทย 22 แห่ง ภายใต้การดูแลของ ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผู้เป็นประธานกองทุน

[caption id="attachment_381779" align="aligncenter" width="500"] ทางออกนอกตำรา : ทุนใหญ่ 'เทมาเสก-GIC' ลอยแพ 'ทักษิณ ชินวัตร' เพิ่มเพื่อน [/caption]

ปี 2559 GIC ถือครองหุ้นใน 22 บริษัท รวม 85,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ราว 26,700 ล้านบาท เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ในแลนด์แอนด์เฮ้าส์ อันดับ 5 ในเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร อันดับ 8 ในธนาคารกสิกรไทย อันดับ 8 ในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อันดับ 9 ใน ปตท. อันดับ 10 ในซีพีออลล์ อันดับ 11 ในธนาคารไทยพาณิชย์ อันดับ 13 ในธนาคารกรุงเทพ แต่พอสิ้นปี 2561 กองทุน GIC เทขายหุ้นออกแทบทุกรายการ

ปีที่ผ่านมา GIC ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยถึง 10 บริษัท โดยลดสัดส่วนหุ้น LH มากสุด ขายออกถึง 977.82 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 11,949 ล้านบาท นี่มินับหุ้นQH ไทยคม ว่ากันว่า GIC ขายหุ้นออกไปแล้ว 1 แสนล้านบาท

นัยหนึ่งที่มีการปรับพอร์ตที่ชัดเจนคือ ลดสัดส่วนการถือหุ้นในส่วนของกลุ่มที่พัวพันกับคนใน ตระกูลชินวัตร และ อัศวโภคิน ที่ใส่เงินมาร่วมลงขันตั้งแต่ปี 2540

องค์ที่ 2 ต่อมา....ปรากฏการณ์กระแสข่าวว่า CAT หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ กำลังเข้าทำดีลซื้อหุ้น บมจ.ไทยคม สมบัติเก่าคุณทักษิณ จากผู้ถือหุ้นใหญ่ INTUCH ของสิงคโปร์ ซึ่งจะใช้เงินซื้อกิจการราว 9,200-9,300 ล้านบาท กับกิจการดาวเทียมไทยคม 2.3 หมื่นล้านบาท

เรื่องนี้รัฐบาลไทยติดต่อขอซื้อจากสิงคโปร์มาตั้งแต่ยุคพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ขาใหญ่ตัวจริงไม่ยอม แต่ล่าสุดมีข่าววงในออกมาว่า กระทรวงไอซีทีเจรจาจริง แม้ทางINTUCH จะปฏิเสธข่าวว่า ได้เสนอขายหุ้นไทยคมให้แก่ CAT ในราคา 8.50 บาท แต่ยอมรับว่า ได้รับความสนใจและการติดต่อจากผู้ที่สนใจเข้าซื้อธุรกิจเป็นครั้งคราว แต่ยังไม่ได้รับข้อเสนอที่มีผลผูกพัน...ท่านคิดว่าปรากฏการณ์นี้บังเอิญหรือไม่!

เขาพูดกันในกระทรวงการต่างประเทศว่า ลี เซียนลุง เปลี่ยนใจจาก ทักษิณ ชินวัตร....

ถ้าท่านคิดว่าไม่บังเอิญ โปรดดูองค์ 3 ...วันที่ 24 มกราคม 2562 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของ “มูลนิธิไทยคม” โดย บรรณพจน์ ดามาพงศ์ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิใหม่ เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อกันและเติบโตร่วมกันจากจุดเริ่มต้นของพลังความมุ่งมั่นตั้งใจแบ่งปันสิ่งดีๆ ต่อสังคมสู่การพัฒนาศักยภาพอย่างมีคุณภาพ และเข้มแข็งเพื่อสังคมที่ดี โดยนายทะเบียนมูลนิธิ กทม. ได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561

มูลนิธิไทยคมนั้น ถือเป็นแหล่งทุนของตระกูลชินวัตร บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นประธานกรรมการ พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เป็นกรรมการและเลขานุการมูลนิธิแทนที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แพทองธาร ชินวัตร เป็นกรรมการมูลนิธิไทยคม และทรงศักดิ์ เปรมสุข เป็นกรรมการมูลนิธิไทยคม

มูลนิธินี้หลายคนคงคุ้นหูในช่วงที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และขายหุ้น 7.3 หมื่นล้านบาท แต่ไม่เสียภาษี มีการอ้างว่าจะนำเงินส่วนหนึ่งจากขายหุ้น 2,000 ล้านบาท บริจาคเพื่อมูลนิธิไทยคม ต่อมาเมื่อ คตส.เข้ามาตรวจสอบการยักย้ายถ่ายโอนเงิน 7.3 หมื่นล้านบาท พบว่ามีการโยกเงินจากบัญชีของพินทองทา 200 ล้านบาท เข้ามูลนิธิไทยคม ในบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ บัญชีเลขที่ 127-0-73845-1 จนต้องถูกตามไปอายัดในที่สุด...

แม้กระทั่งเกิดเหตุคนเสื้อแดงถูกยิงจากการเผาศาลากลาง จ.อุดรธานี มูลนิธิไทยคมก็มอบเงินให้ครอบครัวเหยื่อเสื้อแดงที่ถูกยิงตาย พร้อมส่งเสียบุตรให้เล่าเรียน โดยนายอนันต์ ศรีพันธ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปมอบเงินให้ครอบครัวของ นายอภิชาติ ระชีวะ หนึ่งในผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุบุกเผาศาลากลาง 1.2 แสนบาท

ในทางการข่าว เขาว่า “บังเอิญ” จริงๆ ครับ....และบังเอิญเหลือเกิน ที่มีข่าวกระเซ็นออกมาว่า มีท่อนํ้าเลี้ยงใหญ่ไหลออกไปจากมูลนิธิบางแห่งเสียด้วยสิขอรับ....และไม่นานก็มีการปรับมูลนิธิให้ตัดขาดจากไทยคม

บังเอิญกว่านั้นคือ กองทุนเทมาเสกและกองทุน GIC เลิกญาติดีกับชินวัตร แต่หันกลับมาทำธุรกิจเป็นพันธมิตรกับ “สิริวัฒนภักดี” แบบแน่นแฟ้นเป็นพิเศษ

ใครช่วยโปรดไปตรวจสอบความร่วมมือของบริษัท ไทยคอนฯ กับกลุ่ม “จัสท์โค” (JustCo) กับกองทุน GIC และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ดูสิครับ....เห็นเขาว่ากันว่า จะมากันแบบเต็มชุดในโครงการ One Bangkok….ของเสี่ยยอด ปณต สิริวัฒนภักดี...

เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ช่างกระไร ใจหนอใจคน เคยเคียงคู่ ลองคิดดู จะรู้บ้างไหม...ก็บอกกันสักคำจะได้ทำใจ!

| คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
| โดย : บากบั่น บุญเลิศ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3440 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-2 ก.ย.2562
595959859