‘แม่ละมาย’ส่งขนมไทยสยายปีกตลาดต่างประเทศ
ห้างหุ้นส่วนจำกัดแม่ละมายเตรียมส่งขนมไทยรุกตลาดต่างประเทศ พร้อมนำจุดเด่นของแห้วช่วยเพิ่มรสสัมผัสเวลารับประทาน เล็งตลาดยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ CLMV ด้านตลาดในประเทศลุยแตกไลน์สู่ผลิตภัณฑ์ลอยแก้ว เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 100 ล้าน
นายวีระ ตั้งวุทฒิไกรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่ละมาย ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมหวานวุ้นมะพร้าวแบรนด์แม่ละมาย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มรายได้ในปีนี้ ว่า จะมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดทางด้านส่งออกไปต่างประเทศ ควบคู่กับการออกผลิตภัณฑ์เพื่อทำตลาดในประเทศ โดยการทำตลาดส่งออกนั้น ปัจจุบันบริษัทได้มีการดำเนินการลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อรองรับตลาดดังกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะทำตลาดส่งออกจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มของขนมไทย โดยขั้นตอนล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา (R&D) เช่น ขนมถั่วดำผสมแห้วในนํ้ากะทิ และข้าวเหนียวทุเรียนผสมแห้ว ซึ่งใกล้จะเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์พร้อมทำตลาด โดยบริษัทได้นำผลไม้เกษตรประเภทแห้วมาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากต้องการนำคุณสมบัติเด่นของแห้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสของอาหารเวลารับประทานมาช่วยทำให้ขนมไทยมีรสชาติอร่อยเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ข้าวเหนียวทุเรียนเวลารับประทานจะมีรสสัมผัสที่อ่อนเละ เมื่อได้ความกรอบของแห้วเข้าไปผสมผสานจะช่วยให้การรับประทานมีความเพลิดเพลิน
สำหรับประเทศที่บริษัทจะส่งผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย ได้แก่ กลุ่มประเทศแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทกำลังจะดำเนินการจัดส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างไปให้ โดยผลิตภัณฑ์เกือบจะสมบูรณ์พร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่รายละเอียดอีกเล็กน้อยเท่านั้น
“กลุ่มขนมไทยเป็นกลุ่มอาหารที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทที่ต้อง การนำสินค้าเกษตรมาแปรรูป โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ซึ่งการนำแห้วเข้ามาเป็นองค์ประกอบนั้น เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอศรีประจันต์ ซึ่งปลูกแห้วมากที่สุดในประเทศไทย ขณะที่ตนเองในฐานะเลขาธิการหอการค้าจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการนำเสนอไปที่ทางจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อบูรณาการแห้วตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูกให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ โดยที่บางส่วนมีการปลูกแบบอินทรีย์ และมีการแปรรูปโดยไม่ใช้สารฟอกขาว ก่อนที่จะส่งต่อไปยังผู้บริโภค”
อย่างไรก็ดี กลุ่มประเทศ CLMV ก็มีความสนใจที่จะนำผลิตภัณฑ์เดิมที่ทำตลาดอยู่แล้วในประเทศไทยในกลุ่มวุ้นมะพร้าวไปจำหน่าย โดยที่บริษัทจะต้องดำเนินการพัฒนารูปแบบการจัดเก็บในรูปแบบแช่เยือกแข็ง (Frozen) ซึ่งจะทำให้สามารถยืดระยะเวลาในการเก็บรักษาได้นานขึ้น จากเดิมที่ใช้กรรมวิธีในการถนอมอาหารชั่วคราวโดยใช้ความร้อนในอุณหภูมิระหว่าง 60-80 องศาเซลเซียส (Pasteurization)
ขณะที่การทำตลาดในประเทศบริษัทจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่การทำขนมในรูปแบบลอยแก้ว โดยล่าสุดกำลังจะออกผลิตภัณฑ์ลูกตาลลอยแก้ว ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 4 เมษายน 2562 นี้ ผ่านช่องทางของเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11 eleven)
นายวีระ กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เกิน 100 ล้านบาทในปีนี้ หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20% จากเดิมที่มีรายได้ประมาณ 80 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยเป็นตัวเลขเฉพาะเพียงแค่ในประเทศเท่านั้นจากผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จำหน่ายในเซเว่นฯ ยังไม่ได้คำนวณตลาดการส่งออก เนื่องจากอาจจะต้องใช้เวลาในการเจรจาทางธุรกิจ และขั้นตอนต่างๆทางการตลาด อีกทั้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหล่านี้ก็ไม่สามารถไปเร่งกระบวนการได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น วัตถุดิบ เป็นต้น
“จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์แม่ละมาย คือการเป็นผลิต ภัณฑ์ที่ทำมาจากวัตถุดิบทางการเกษตร โดยเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแม้จะเป็นขนมหวาน แต่จะหวานไม่มาก อีกทั้งวัตถุดิบทุกอย่างจะต้องผ่านขั้นตอนการคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วย วุ้นมะพร้าวผสมเมล็ดแมงลัก วุ้นมะพร้าวรวมมิตรในนํ้าลำไย วุ้นมะพร้าวผสมสับปะรด นํ้าใบเตยผสมวุ้น เครื่องดื่มเมล็ดแมงลักผสมวุ้นมะพร้าวในนํ้าแดง เป็นต้น”
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,450 วันที่ 7 - 9 มีนาคม พ.ศ. 2562
