สวทช. ร่วมมือ 'ไอบีเอ็ม' ส่ง IOT เพิ่มผลผลิตไร่อ้อยกลุ่มมิตรผล

06 มี.ค. 2562 | 03:04 น.

สวทช. ร่วมมือ สถาบันวิจัยไอบีเอ็ม นำปัญญาประดิษฐ์พัฒนางานการทำไร่อ้อยกลุ่มมิตรผล คาดโครงการวิจัย อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ การสำรวจระยะไกลผ่านดาวเทียม และข้อมูลพยากรณ์อากาศแบบเจาะจงพื้นที่ ช่วยเพิ่มผลผลิตไร่อ้อย

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. 
กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ประกาศความร่วมมือในงานวิจัยระยะเวลา 2 ปี ร่วมกับไอบีเอ็ม เพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยในประเทศไทย โดย สวทช. และไอบีเอ็ม ร่วมด้วยกลุ่มมิตรผล ที่ให้การสนับสนุนความรู้เฉพาะทางในการวิจัยครั้งนี้ จะนำร่องพัฒนาแดชบอร์ดอัจฉริยะและแอพพลิเคชันบนมือถือ เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพของอ้อย ความชื้นของดิน ความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากโรคและศัตรูพืช การคาดการณ์ผลผลิต และดัชนีค่าคุณภาพความหวานของอ้อย (ซีซีเอส) โดยอาศัยเทคโนโลยีเอไอชั้นนำของโลกและข้อมูลสภาพอากาศที่แม่นยำที่สุดในโลกจาก เดอะ เวเธอร์ คอมแพนี (The Weather Company) รวมถึงเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์และอนาไลติกส์
 

สวทช. ร่วมมือ 'ไอบีเอ็ม' ส่ง IOT เพิ่มผลผลิตไร่อ้อยกลุ่มมิตรผล


ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และมีบทบาทสำคัญในการป้อนน้ำตาลสู่ตลาดโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาด 9.4% ในปี 2560 โดยคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะสามารถผลิตน้ำตาลได้ 14.1 ล้านเมตริกตัน ในช่วงปี 2561-2562 โดยเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่ผ่านมา
 

แคทรีน กวารินี รองประธาน ฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยไอบีเอ็ม กล่าวว่า นักวิจัยไอบีเอ็มกำลังพัฒนา "อโกรโนมิค อินไซต์ แอสซิสแทนท์" (Agronomic Insights Assistant) ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม ไอบีเอ็ม วัตสัน ดีซิชัน สำหรับการเกษตร (IBM Watson Decision Platform for Agriculture) ร่วมกับระบบ ไอบีเอ็ม แพร์ส จีโอสโคป (IBM PAIRS Geoscope) ผสานรวมข้อมูลความสัมพันธ์เชิงเวลาและพื้นที่ เช่น ภาพถ่ายพืชผลจากกล้องหลายช่วงคลื่นที่เก็บภาพมาจากดาวเทียมหลายตัว ข้อมูลดิน ข้อมูลแบบจำลองความสูงของภูมิประเทศในรูปแบบดิจิทัล ร่วมกับข้อมูลทางการเกษตร เช่น สุขภาพของอ้อย ระดับความชื้นของดิน พยากรณ์ความเสี่ยงโรคและศัตรูพืช ปริมาณผลผลิต และดัชนีค่าคุณภาพความหวานของอ้อย โดยใช้โมเดลการพยากรณ์ที่แม่นยำจาก เดอะ เวเธอร์ คอมแพนี

จากนั้นจึงนำข้อมูลไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการสำรวจเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับการปรับและพัฒนาให้เหมาะกับการทำไร่อ้อยในประเทศไทยโดย สวทช. และความรู้เฉพาะทางด้านการเกษตรจากกลุ่มมิตรผล เพื่อกลั่นกรองเป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะการขาดน้ำและอาหารที่ส่งผลต่อการเติบโตของอ้อย ความเสี่ยงของโรคและศัตรูพืช ตลอดจนปริมาณผลผลิตทางการเกษตรและดัชนีคุณภาพของอ้อย
 

สวทช. ร่วมมือ 'ไอบีเอ็ม' ส่ง IOT เพิ่มผลผลิตไร่อ้อยกลุ่มมิตรผล


IOT "อโกรโนมิค อินไซต์ แอสซิสแทนท์" ที่พัฒนาขึ้นนี้ จะนำร่องใช้ในช่วงกลางปี 2562 บนไร่อ้อยขนาดไม่เกิน 1 ล้านตารางเมตร จำนวน 3 ไร่ โดยเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จะช่วยประเมินและจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะนำไปสู่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่พยากรณ์ล่วงหน้าได้สูงสุด 2 สัปดาห์ ร่วมด้วยการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโรคและศัตรูพืช อย่าง หนอนเจาะลำต้นข้าวและความเสี่ยงที่จะเกิดโรคใบขาว และการพยากรณ์อากาศระยะสั้นตามฤดูกาลแบบเจาะจงพื้นที่ คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างเจาะจง ไม่ว่าจะเป็น การทดน้ำและระบายน้ำ การใส่ปุ๋ย และการกำจัดศัตรูพืช เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจนำไปสู่การสูญเสียผลผลิต

รศ.ดร.กล้าณรงค์ ศรีรอต Head of Innovation and Research Development Institute กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า การร่วมมือกับ สวทช. รวมถึงการนำเทคโนโลยีเอไอ การสำรวจระยะไกลผ่านดาวเทียม และระบบพยากรณ์อากาศขั้นสูงของไอบีเอ็มมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำไร่อ้อย ถือเป็นแนวทางก้าวสู่การทำเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) ภายใต้แผนการปรับเปลี่ยนให้เกษตรกรไทยก้าวสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ หรือ Modern Farming ได้รวดเร็วขึ้น ทั้งยังสร้างประโยชน์ให้กับภาคเกษตรกรรมของไทยอย่างยั่งยืน

นางสาวปฐมา จันทรักษ์ รองประธาน ด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว "การผนึกจุดแข็งของ สวทช. และไอบีเอ็มในด้านการวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ใช้บิ๊กดาต้า อนาไลติกส์ เอไอ และอินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ เข้ากับความรู้เชิงลึกด้านการเกษตรของกลุ่มมิตรผล เป็นการพลิกโฉมแนวปฏิบัติของหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุด และแสดงให้เห็นถึงก้าวย่างใหม่ของเกษตรกรรมอัจฉริยะในประเทศไทย

สวทช. ร่วมมือ 'ไอบีเอ็ม' ส่ง IOT เพิ่มผลผลิตไร่อ้อยกลุ่มมิตรผล