หุ้นรสก. AOT PTT KTB ถือยาวโกยปันผล

06 มี.ค. 2562 | 03:58 น.

 

โบรกมองหุ้นรัฐวิสาหกิจยังแกร่งจากธุรกิจที่ผูกขาด ชี้ลงทุนระยะยาว  PTT AOT และ KTB ยังน่าสนใจ แต่ THAI ยังฟื้นตัวยาก ลุ้น MCOT ต่อยอดที่ดินและคืนใบอนุญาตรับเงินชดเชย เผยคลัง-ภาครัฐถือหุ้นใหญ่ 3 รัฐวิสาหกิจ โกยเงินปันผลปี 2561 กว่า 38,880 ล้านบาท  

 การลงทุนในตลาดหุ้นบนความเสี่ยงที่มีอยู่มาก ต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่งของพื้นฐานเป็นหลัก รวมถึงอัตราผลตอบแทนว่าจะได้คุ้มเสียหรือไม่ โดยหุ้นที่ยังคงน่าลงทุนและพื้นฐานยังแข็งแกร่ง คือหุ้นรัฐวิสาหกิจ  ที่สำคัญในปี 2561 มี 3 บริษัท ที่ประกาศจ่ายเงินปันผล ทำให้กระทรวงการคลัง หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ได้รับเงินปันผลรวมกว่า 38,880 ล้านบาท

หุ้นรสก. AOT  PTT  KTB ถือยาวโกยปันผล

โดยหุ้นรัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.)  หรือ PTT โดยกระทรวงการคลัง หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ถือหุ้นสัดส่วน 64.64% บมจ.การบินไทย (THAI) สัดส่วน 68.28%, บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) สัดส่วน 60.29%, บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) สัดส่วน 71.16% และ บมจ. อสมท (MCOT) ถือในสัดส่วน 78.61% ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2561 พบว่ามีเพียง 3 บริษัทที่มีกำไร คือ PTT KTB และ AOT มีกำไรสุทธิ รวม 173,345.76 ล้านบาท ส่วน THAI และ MCOT ขาดทุนสุทธิรวม 11,947 ล้านบาท ขณะที่การจ่ายเงินปันผล AOT จ่ายเงินปันผลที่หุ้นละ 1.05 บาท โดยกระทรวงการคลัง หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 10,165,071,600 หุ้น ได้รับเงินปันผลตอบแทนประมาณ 10,673 ล้านบาท  PTT ถือหุ้นจำนวน 18,463,850,850 หุ้น ได้รับเงินปันผล  22,157 ล้านบาท และ KTB ถือหุ้นจำนวน 8,426,279,570 หุ้น ได้รับเงินปันผล 6,050 ล้านบาท รวมเงินปันผล 3 รัฐวิสาหกิจอยู่ที่  38,880 ล้านบาท ส่วน THAI และ MCOT งดจ่ายเงินปันผล

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า หุ้นรัฐวิสาหกิจถือว่ามีข้อดีจากการทำธุรกิจที่มีการผูกขาด ทำให้มีความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจสูง แต่แนวทางภาครัฐที่เริ่มมีการเพิ่มการแข่งขันมากขึ้น ส่งผลให้รัฐวิสาหกิจเดิมที่ไม่มีการแข่งขันต้องมีการปรับตัว แต่ก็ยังมีความสามารถไม่เพียงพอ  การจะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จึงต้องพิจารณาเป็นรายบริษัทแทน ทั้งนี้หากจะลงทุนถือหุ้นในระยะยาว มองว่า AOT  PTT และ KTB ยังคงน่าสนใจและลงทุนได้

หุ้นรสก. AOT  PTT  KTB ถือยาวโกยปันผล

อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ตามรายหุ้น AOT ถือเป็นธุรกิจที่มีการผูกขาด รวมถึงภาคการท่องเที่ยวของไทยยังแข็งแกร่ง ทำให้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้าน KTB แม้ความสามารถในการแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์อื่นจะไม่ดีมากนัก แต่มีข้อได้เปรียบจากการที่มีฐานลูกค้าหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่รับเงินเดือนผ่าน KTB หากปรับเปลี่ยนฐานลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมากมาเป็นธุรกิจได้ ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ PTT มีการเปลี่ยนองค์กรได้ในระดับที่ดีมาก และประสบความสำเร็จจากการแข่งขันในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ทำให้มีผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง

หุ้นรสก. AOT  PTT  KTB ถือยาวโกยปันผล

ขณะเดียวกัน THAI เป็นรัฐวิสาหกิจที่สูญเสียความสามารถในการแข่งขันลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการบินให้เป็นสายการบินแห่งชาติ ซึ่งเดิมประเทศที่มีสายการบินแห่งชาติมีไม่กี่แห่ง แต่ปัจจุบันในแถบตะวันออกกลางเริ่มมีมากขึ้น เพราะมีทำเลที่ตั้งค่อนข้างได้เปรียบที่อยู่ตรงกลางระหว่างไทย ยุโรป และสหรัฐฯ อีกทั้งปัจจุบันถูกแทรกแซงการทำงานจากรัฐมากเกินไป ทำให้ความสามารถลดลง ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวพอสมควร โดยในตัวหุ้นเองยังไม่น่าสนใจ และแนะนำให้ติดตามอย่างใกล้ชิด

หุ้นรสก. AOT  PTT  KTB ถือยาวโกยปันผล

สำหรับ MCOT จากเดิมที่มีการผูกขาดในด้านการกำกับและดูแลการเผยแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ แต่หลังจากมีการปฏิรูปให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดูแล และปรับรูปแบบเป็นผู้ประกอบการธุรกิจแทน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะด้านวิทยุที่เริ่มแย่ลง ขณะที่ ปัจจุบันการแข่งขันของทีวีดิจิทัลที่รุนแรง MCOT ไม่สามารถแข่งขันได้เลย แต่ยังมีทรัพย์สินคือที่ดินขนาดใหญ่ ในพื้นที่พระราม 9 ซึ่งมีศักยภาพเชิงพาณิชย์ โดยมองว่าจะสามารถหารายได้เพิ่มจากส่วนนี้ นอกจากนี้คลื่นที่มีในมือ หากคืนใบอนุญาตให้กสทช. ก็จะมีโอกาสได้เงินชดเชยด้วยเช่นกัน

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,450  วันที่ 7 - 9 มีนาคม  2562

หุ้นรสก. AOT  PTT  KTB ถือยาวโกยปันผล