ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวปิดระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน ขานรับหุ้นโบอิ้งดีดตัวและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวปรับดีขึ้น รวมถึงแรงหนุนหลังจากรัฐสภาอังกฤษมีมติไม่เห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไร้ข้อตกลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,702.89 จุด เพิ่มขึ้น 148.23 จุด หรือเพิ่ม 0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,810.92 จุด เพิ่มขึ้น 19.40 จุด หรือเพิ่ม 0.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,643.41 จุด เพิ่มขึ้น 52.37 จุด หรือเพิ่ม 0.69%ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.1% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ ดีดตัวขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว
ขณะที่การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% อย่างไรก็ตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือนน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นโบอิ้งที่ปิดตลาดดีดตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ และจากการที่รัฐสภาอังกฤษมีมติคะแนนเสียง 321 ต่อ 278 เสียงเมื่อวานนี้ ไม่เห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไร้ข้อตกลง