เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว

17 มี.ค. 2562 | 03:49 น.

รฟท. เตรียมชงรัฐบาลใหม่เร่งผลักดันการจัดซื้อ-เช่าหัวรถจักร รถขบวนใหม่ กว่า 2 พันรายการ ค่ากว่าแสนล้าน มีลุ้นประเดิมจัดซื้อ 50 หัวรถจักร ค่า 6,200 ล้านบาท เร่งประกาศทีโออาร์หลังเลือกตั้ง ด้าน ภาคเอกชนแตะเบรก รฟท. วอนยึดมติ ครม. และ คนร.ให้เน้นส่งเสริมการผลิตในประเทศมากกว่าซื้อสำเร็จรูป
 

เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามแผนฟื้นฟูของ รฟท. พบว่า มีความต้องการใช้รถจักรและล้อเลื่อน จำนวนรวมกว่า 2,000 รายการ เพื่อนำไปใช้งานในเส้นทางโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 รถไฟเส้นทางสายใหม่ โดยเฉพาะบริการเชิงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ รฟท. สำหรับบริการขบวนโดยสารและการขนส่งสินค้าเส้นทางต่าง ๆ คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท
 
เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว

โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการเร่งสรุปความเห็นต่อการปรับแก้ไขร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการจัดซื้อรถจักรดีเซล จำนวน 50 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท ตามที่ได้เปิดรับฟังความเห็นมาหลายครั้งแล้ว ภายหลังจากที่ได้ชะลอการจัดหาโครงการนับตั้งแต่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศ
 
ทั้งนี้ ฝ่ายที่รับผิดชอบส่งเรื่องมาเรียบร้อยแล้ว รอตรวจสอบความถูกต้อง แล้วจะเซ็นอนุมัติให้ดำเนินการส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งเปิดประมูลต่อไป คาดว่าจะมีหลายประเทศแสดงความสนใจ ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเรื่องนี้ถือว่าดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่ ส่วนเรื่องการดำเนินการที่จะขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ นโยบายกระทรวงคมนาคม หรือไม่นั้น จะพบว่า มติดังกล่าวเพิ่งประกาศออกมา แต่กระบวนการจัดหาหัวรถจักร จำนวน 50 หัว พร้อมอะไหล่ ได้ดำเนินการมานานผ่านกระบวนการที่เกินกว่าจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ให้ล่าช้า ที่จะส่งผลเสียหายต่อ รฟท. ได้อีก

"ยังสงสัยรู้ได้อย่างไร ว่า โลคัลคอนเทนหัวรถจักรมีเพียง 30% ทราบได้อย่างไร หากจะศึกษาเรื่องนี้คงต้องใช้ระยะเวลาราว 1 ปี เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า 4-5 สาย ที่จะเกิดขึ้นมา ถามว่าจะใช้ระบบเดียวกันหรือไม่ ยกเว้น โครงการอื่น ๆ ที่ยังไม่เกิด จะเร่งดำเนินการผลักดันตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป"
 
เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว

เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว


นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับความต้องการใช้รถจักรและล้อเลื่อนตามแผนฟื้นฟู รฟท. จำแนกความต้องการใช้งาน ดังนี้ คือ โครงการจัดหารถจักรดีเซล จำนวน 50 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการเช่ารถจักรดีเซลไฟฟ้า 50 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยนภายในย่านสายสีแดง จำนวน 20 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถดีเซลราง 216 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศสำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 184 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถจำนวน 965 คัน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถโดยสาร 273 คันทดแทน พร้อมอะไหล่, โครงการจัดหารถจักรดีเซลรางเชิงสังคมรองรับทางคู่ 524 คัน, โครงการจัดหารถดีเซลรางรองรับการเปิดเดินขบวนรถบนทางสายใหม่ 102 คัน, โครงการจัดหารถโดยสารรองรับการเปิดขบวนบนทางสายใหม่ 273 คัน, โครงการจัดหารถดีเซลรางสังคมทดแทนใช้งานรถท้องถิ่นสายอีสาน สายแม่กลอง และศาลายา จำนวน  98 คัน และโครงการจัดหารถดีเซลรางเชิงสังคมทดแทนรุ่นเลข 4 ตัว ในขบวนท้องถิ่นสายใต้ 60 คัน

"ช่วงเบื้องต้น เตรียมนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่เร่งผลักดัน ได้แก่ รายการจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงินลงทุน 6,200 ล้านบาท รายการจัดหารถดีเซลราง 216 คัน วงเงินลงทุนประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท, รายการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ 184 คัน วงเงินลงทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และรายการจัดหารถบรรทุกตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ 965 คัน วงเงินลงทุนประมาณ 2,400 ล้านบาท รายการเหล่านี้น่าจะนำไปดำเนินการได้ก่อน ส่วนรายการอื่น ๆ ค่อยเร่งนำเสนอต่อเนื่องกันไป"

ด้าน นายวีรชัย ตรีพรเจริญ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ระบบราง สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า ในฐานะภาคเอกชนไทย ต้องการให้ รฟท. นำนโยบายของ ครม. และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่กำหนดว่า การจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ รฟท. จะต้องมีแนวทางที่เหมาะสมในการสนับสนุนอุตสาหกรรมทางรางของประเทศ โดยใช้สินค้าหรือวัสดุภายในประเทศเป็นลำดับแรก ซึ่งปัจจุบัน ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตหัวรถจักรได้แล้ว โดยความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ ดังนั้น โอกาสนี้หากรัฐมีความจริงใจในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศ ก็ควรจะเร่งดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สอดคล้องกับที่ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรื่องนี้พูดกันมานาน และทราบดีว่า ฝ่ายจีนมีความพยายามจะผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ หากตรวจสอบแหล่งที่มาของราคา จะพบว่า ยึดการเทียบราคาจากแหล่งผลิตในจีนทั้งหมด ดังนั้น หาก รฟท. อ้างว่า มีความจำเป็นเร่งด่วน ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. และ คนร. ก็คงจะขึ้นอยู่กับอำนาจการตัดสินใจของผู้บริหารประเทศ ว่า เห็นควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

เปิดโพย รฟท. ลงทุนแสนล้าน เตรียมชงรัฐบาลใหม่ไฟเขียว